In the aftermath of the March 2011

In the aftermath of the March 2011 accident at Japan’s Fukushima Daiichi nuclear power plant, the future contribution of nuclear power to the global energy supply has become somewhat uncertain. Because nuclear power is an abundant, low-carbon source of base-load power, it could make a large contribution to mitigation of global climate change and air pollution. Using historical production data, we calculate that global nuclear power has prevented an average of 1.84 million air pollution-related deaths and 64 gigatonnes of CO2-equivalent (GtCO2-eq) greenhouse gas (GHG) emissions that would have resulted from fossil fuel burning. On the basis of global projection data that take into account the effects of the Fukushima accident, we find that nuclear power could additionally prevent an average of 420 000–7.04 million deaths and 80–240 GtCO2-eq emissions due to fossil fuels by midcentury, depending on which fuel it replaces. By contrast, we assess that large-scale expansion of unconstrained natural gas use would not mitigate the climate problem and would cause far more deaths than expansion of nuclear power.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในผลพวงของ 2554 มีนาคมเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิของญี่ปุ่น ผลงานในอนาคตของพลังงานนิวเคลียร์ให้พลังงานทั่วโลกได้กลายเป็นค่อนข้างไม่แน่นอน เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์เป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ คาร์บอนต่ำของฐานโหลด มันจะทำให้ส่วนใหญ่เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และมลพิษทางอากาศ ใช้ข้อมูลการผลิตประวัติศาสตร์ คำนวณที่โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทั่วโลกไม่ให้ค่าเฉลี่ยของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมลพิษอากาศ 1.84 ล้านและ gigatonnes 64 ของเทียบเท่า CO2 (GtCO2-eq) (ก๊าซเรือนกระจก) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จะมีผลจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง บนพื้นฐานของข้อมูลทั่วโลกฉายที่คำนึงถึงผลกระทบของอุบัติเหตุฟุกุชิมะ เราพบว่าพลังงานนิวเคลียร์ทำให้เฉลี่ย 420 000 – 7.04 ล้านตายและ 80 – 240 GtCO2 eq ปล่อยเนื่องจากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดย midcentury ขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงซึ่งจะแทนนอกจากนี้ โดยคมชัด เราประเมินที่ขยายใหญ่ของก๊าซธรรมชาติ unconstrained ใช้จะบรรเทาปัญหาสภาพภูมิอากาศ และจะทำให้เสียชีวิตมากขึ้นกว่าการขยายตัวของพลังงานนิวเคลียร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในผลพวงของมีนาคม 2011 เกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้​​านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิของญี่ปุ่นที่มีส่วนร่วมในอนาคตของพลังงานนิวเคลียร์ในการจัดหาพลังงานทั่วโลกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่แน่นอน เพราะพลังงานนิวเคลียร์เป็นที่อุดมสมบูรณ์แหล่งคาร์บอนต่ำของฐานอำนาจโหลดก็อาจทำให้ผลงานขนาดใหญ่เพื่อบรรเทาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและมลพิษทางอากาศ โดยใช้ข้อมูลการผลิตทางประวัติศาสตร์ที่เราคำนวณว่าพลังงานนิวเคลียร์ทั่วโลกได้ป้องกันไม่ให้ค่าเฉลี่ยของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ 1840000 และ 64 gigatonnes ของ CO2 เทียบเท่า (GtCO2-EQ) ก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่จะมีผลมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล บนพื้นฐานของข้อมูลการฉายทั่วโลกที่คำนึงถึงผลกระทบของการเกิดอุบัติเหตุฟูกูชิม่าที่เราพบว่าพลังงานนิวเคลียร์นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันไม่ให้ค่าเฉลี่ยของ 420 000-7040000 80-240 คนตายและการปล่อย GtCO2-EQ เนื่องจากเชื้อเพลิงฟอสซิลโดย midcentury, ซึ่งขึ้นอยู่กับน้ำมันเชื้อเพลิงจะแทนที่ ในทางตรงกันข้ามเราประเมินว่าการขยายขนาดใหญ่ของการใช้ก๊าซธรรมชาติที่ไม่มีข้อ จำกัด จะไม่บรรเทาปัญหาสภาพภูมิอากาศและจะทำให้เกิดการเสียชีวิตมากกว่าการขยายตัวของพลังงานนิวเคลียร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

在三月2011事件后，日本福岛第一核电站，核电对全球能源供应的未来贡献已经变得有些不确定。因为核电是一个丰富的低碳源的基础负载能力，它可以作出很大的贡献，以减轻全球气候变化和空气污染。利用历史生产数据，我们计算出了全球核电平均184万空气污染相关的死亡和64亿吨二氧化碳当量（亿吨CO2当量）的温室气体（GHG），将导致从化石燃料燃烧排放。基于全球投影数据，考虑到福岛核事故的影响，我们发现，核电可以另外防止420 000–704万人死亡和80–240亿吨CO2当量排放化石燃料，到本世纪中期平均，取决于燃料取代。相比之下，我们评估，大规模扩张的不受约束的天然气的使用不会减轻气候问题，并会导致更大的死亡人数比扩张的核电。