เรียงความ เรื่อง โรงเรียนของฉัน ทุก

เรียงความ เรื่อง โรงเรียนของฉัน
ทุกคนไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า “โรงเรียน” หากจะกล่าวถึงโรงเรียนบางคนอาจคิดว่าโรงเรียนเป็นเพียงสถานที่ให้การศึกษา ให้ความรู้ เป็นเพียงบันไดอีกขั้นหนึ่งที่จะก้าวไปสู่ความฝันและอนาคตของแต่ละคน แต่สำหรับฉันมันเป็นมากว่านั้น
ฉันยังจำก้าวแรกที่เข้าไปเรียนโรงเรียนแห่งนั้นได้ฉันรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่สามารถสอบแข่งขันเข้ามาเรียนได้ นอกจากความรู้สึกตื่นเต้นดีใจแล้วยังมีความรู้สึกอีกความรู้สึกนั้นคือความกลัว กลัวที่จะพบเจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่ที่ฉันไม่เคยรู้จัก ถึงโรงเรียนของฉันจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่นับได้ว่าเป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่นักเรียนหลายต่อหลายคนพยายามที่จะสอบแข่งขันเพื่อให้ได้เข้ามาเรียนโรงเรียนแห่งนี้โรงเรียนของฉันมีชื่อว่า “โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ” เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ประจำอำเภอ ตั้งอยู่ที่ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ก่อนที่ฉันจะมาเรียนที่นี่ฉันเคยได้ยินข่าวลือว่าที่โรงเรียนแห่งนี้รุ่นพี่ผู้ชาย ม.ปลาย เป็นพวกหัวรุนแรงชอบใช้กำลัง รุ่นพี่ผู้หญิงแต่งกายไม่เรียบร้อยแต่พอฉันได้เข้ามาเรียนจริงๆ จึงเห็นว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็น แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นมากเลยทีเดียว โรงเรียนของฉันตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฉันนัก มีต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนคือต้นมะขามและต้นสัก ปลูกเรียงรายให้ร่มเงาอยู่ตามริมฟุตบาททางเดินเข้าโรงเรียน ขวามือทางเข้ามีป้อมยามและสนามบาสเกตบอลอยู่ เดินไปเรื่อยๆด้านซ้ายมือจะเห็นรูปปั้นเหมือนของท่าน “พระครูวิฑิตธรรมคุณ” ผู้ก่อตั้งโรงเรียน ซึ่งพร้อมให้นักเรียนไปกราบไหว้บูชาขอพรกัน ยังมีม้าหินอ่อนจัดเป็นมุมพักผ่อนเพื่อให้นักเรียนนั่งคุยกันอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนกับเพื่อน ห้องเรียนโต๊ะเก้าอี้ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงามเพราะที่นี้นักเรียนจะเดินเรียน เมื่อเปลี่ยนคาบเรียนจะต้องเปลี่ยนห้องด้วยฉะนั้นก่อนที่นักเรียนจะออกจากห้องก็ต้องจัดโต๊ะเก้าอี้ให้เป็นระเบียบก่อนที่จะออกไปเรียนคาบเรียนต่อไปเพื่อสะดวกในการใช้ห้องเรียนของนักเรียนกลุ่มอื่น การใช้ชีวิตอยู่ภายในรั้ว “เหลือง-แดง” แห่งนี้ฉันได้รับประสบการณ์มากมายมีทั้งความสุขและความทุกข์เสียใจร้องไห้ที่แห่งนี้มีทั้งเพื่อนและครูอาจารย์ แต่พอใกล้ถึงวันที่ฉันต้องก้าวออกไปจากรั้ว “เหลือง-แดง” ฉันถึงรู้สึกว่าไม่สามารถย้อนเวลาแห่งความสุขกลับมาได้และเมื่อใกล้จบการศึกษาเพื่อนหลายคนบ่นว่า ระยะเวลา 6 ปีที่เรียนที่นี้ช่างสั้นนักและหลายคนต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่างที่เพื่อก้าวขึ้นสู้การเป็นผู้ใหญ่ คงจะไม่มีอีกแล้วเสียงกระดิ่งดังกริ๊งๆในตอนเช้าไม่มีเสียงอาจารย์เรียกเราไปเข้าแถวไม่มีเสียงร้องเพลงชาติและที่สำคัญไม่มีคุณครูมาคอยบ่นให้ทำตัวให้ถูกระเบียบ นอกจากการศึกษาในโรงเรียนแล้วยังมีการศึกษานอกโรงเรียนและยังส่งเสริมกิจกรรมที่นักเรียนคิดขึ้นมาเช่นกิจกรรมถ่ายทอดความรู้สู่น้องค่ายพี่พบน้องเป็นการแนะแนวสถานที่ศึกษาต่อและยังมีกิจกรรมเข้าค่ายบรรพชาสามเณร และ บวชเนกขัมมจาริณีเป็นการปฏิบัติธรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น เวลาพวกเรามีปัญหาอะไรก็จะมีคุณครูที่ปรึกษาคอยให้คำปรึกษาตลอดเพราะคุณครูที่นี้ ทั้งให้ความรักความอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่ในทุกๆด้าน ผู้ซึ่งเป็นเหมือนแม่คนที่สองของเรา จากตอนแรกที่คิดว่ากลัวที่จะได้พบเพื่อนใหม่ กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่อยากให้จากกันเร็วแบบนี้เลย ฉันดีใจที่มีเพื่อนแบบทุกคน ฉันได้ประสบการณ์ที่ดีมากมายตลอดที่ฉันศึกษาอยู่ที่นี่ โรงเรียนแห่งมีความสำคัญกับฉันมากและมันจะมีค่าตลอดไป
โรงเรียนไม่เป็นเพียงสถานที่ให้การศึกษา ให้ความรู้ แต่ยังเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของฉัน ซึ่งเป็นสถานที่ที่แม่คนที่สองของพวกเราให้ทั้งความรู้ ความรัก ความอบอุ่น และยังเป็นสถานที่ทำให้เราพบเจอกับมิตรภาพใหม่ๆที่ดี และประสบการณ์ชีวิตที่เราไม่อาจหาซื้อที่ไหนได้ ฉันรัก “โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ”

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1:

My school essay Not everyone has the word "school" is mentioned, some people think the school is the only school places, education, knowledge, is just another step on the ladder to lead the dream and the future of each person. But for me it is a lot. ฉันยังจำก้าวแรกที่เข้าไปเรียนโรงเรียนแห่งนั้นได้ฉันรู้สึกตื่นเต้นดีใจที่สามารถสอบแข่งขันเข้ามาเรียนได้ นอกจากความรู้สึกตื่นเต้นดีใจแล้วยังมีความรู้สึกอีกความรู้สึกนั้นคือความกลัว กลัวที่จะพบเจอเพื่อนใหม่สังคมใหม่ที่ฉันไม่เคยรู้จัก ถึงโรงเรียนของฉันจะไม่ใหญ่โตมากนักแต่นับได้ว่าเป็นอีกโรงเรียนหนึ่งที่นักเรียนหลายต่อหลายคนพยายามที่จะสอบแข่งขันเพื่อให้ได้เข้ามาเรียนโรงเรียนแห่งนี้โรงเรียนของฉันมีชื่อว่า “โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ” เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ประจำอำเภอ ตั้งอยู่ที่ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ก่อนที่ฉันจะมาเรียนที่นี่ฉันเคยได้ยินข่าวลือว่าที่โรงเรียนแห่งนี้รุ่นพี่ผู้ชาย ม.ปลาย เป็นพวกหัวรุนแรงชอบใช้กำลัง รุ่นพี่ผู้หญิงแต่งกายไม่เรียบร้อยแต่พอฉันได้เข้ามาเรียนจริงๆ จึงเห็นว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็น แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นมากเลยทีเดียว โรงเรียนของฉันตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของฉันนัก มีต้นไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนคือต้นมะขามและต้นสัก ปลูกเรียงรายให้ร่มเงาอยู่ตามริมฟุตบาททางเดินเข้าโรงเรียน ขวามือทางเข้ามีป้อมยามและสนามบาสเกตบอลอยู่ เดินไปเรื่อยๆด้านซ้ายมือจะเห็นรูปปั้นเหมือนของท่าน “พระครูวิฑิตธรรมคุณ” ผู้ก่อตั้งโรงเรียน ซึ่งพร้อมให้นักเรียนไปกราบไหว้บูชาขอพรกัน ยังมีม้าหินอ่อนจัดเป็นมุมพักผ่อนเพื่อให้นักเรียนนั่งคุยกันอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนกับเพื่อน ห้องเรียนโต๊ะเก้าอี้ถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบสวยงามเพราะที่นี้นักเรียนจะเดินเรียน เมื่อเปลี่ยนคาบเรียนจะต้องเปลี่ยนห้องด้วยฉะนั้นก่อนที่นักเรียนจะออกจากห้องก็ต้องจัดโต๊ะเก้าอี้ให้เป็นระเบียบก่อนที่จะออกไปเรียนคาบเรียนต่อไปเพื่อสะดวกในการใช้ห้องเรียนของนักเรียนกลุ่มอื่น การใช้ชีวิตอยู่ภายในรั้ว “เหลือง-แดง” แห่งนี้ฉันได้รับประสบการณ์มากมายมีทั้งความสุขและความทุกข์เสียใจร้องไห้ที่แห่งนี้มีทั้งเพื่อนและครูอาจารย์ แต่พอใกล้ถึงวันที่ฉันต้องก้าวออกไปจากรั้ว “เหลือง-แดง” ฉันถึงรู้สึกว่าไม่สามารถย้อนเวลาแห่งความสุขกลับมาได้และเมื่อใกล้จบการศึกษาเพื่อนหลายคนบ่นว่า ระยะเวลา 6 ปีที่เรียนที่นี้ช่างสั้นนักและหลายคนต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่างที่เพื่อก้าวขึ้นสู้การเป็นผู้ใหญ่ คงจะไม่มีอีกแล้วเสียงกระดิ่งดังกริ๊งๆในตอนเช้าไม่มีเสียงอาจารย์เรียกเราไปเข้าแถวไม่มีเสียงร้องเพลงชาติและที่สำคัญไม่มีคุณครูมาคอยบ่นให้ทำตัวให้ถูกระเบียบ นอกจากการศึกษาในโรงเรียนแล้วยังมีการศึกษานอกโรงเรียนและยังส่งเสริมกิจกรรมที่นักเรียนคิดขึ้นมาเช่นกิจกรรมถ่ายทอดความรู้สู่น้องค่ายพี่พบน้องเป็นการแนะแนวสถานที่ศึกษาต่อและยังมีกิจกรรมเข้าค่ายบรรพชาสามเณร และ บวชเนกขัมมจาริณีเป็นการปฏิบัติธรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น เวลาพวกเรามีปัญหาอะไรก็จะมีคุณครูที่ปรึกษาคอยให้คำปรึกษาตลอดเพราะคุณครูที่นี้ ทั้งให้ความรักความอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่ในทุกๆด้าน ผู้ซึ่งเป็นเหมือนแม่คนที่สองของเรา จากตอนแรกที่คิดว่ากลัวที่จะได้พบเพื่อนใหม่ กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่อยากให้จากกันเร็วแบบนี้เลย ฉันดีใจที่มีเพื่อนแบบทุกคน ฉันได้ประสบการณ์ที่ดีมากมายตลอดที่ฉันศึกษาอยู่ที่นี่ โรงเรียนแห่งมีความสำคัญกับฉันมากและมันจะมีค่าตลอดไป The school is not only a place where education, knowledge, but also like my second home, where the mother of the two men we all know. Love, warmth, and also a place that allows us to see the great new friendships and life experiences that we may not find out where to buy. I love "The school advocates a State thamkhun."

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:

Essay about my school,
people do not know the word "school" if the school, some may think that school is a place for education, knowledge is the only stair step one to step into the dream. and the future of each But for me it was more than that,
I still remember the first step of the schools that I'm excited to be able to get into the tournament. In addition to the excitement, there is also a sense that feeling is fear. Afraid to meet new social, I do not know. To my school are not very big, but we have a school that many students try to compete to get into the school of my school is named. "Schools civil state fair you" is a large school district located at Ngao Lampang before I came here, I had heard rumors that at this school senior men's. The end is extremist like force. Senior girls dress neat, but I have come to really. So that only a little. However, it is a novel and exciting experiences ever. My school is not far from my home, a. The tree is a symbol of the tamarind tree and teak. Planting shade lined walkway along the footpath to school. Right-hand entrance and a guard on the basketball court. Walk around the left hand side to see a statue of him. "Provost Vithit you fairly," the founder of the school. With which the students wish to worship together. Marble also has a corner for students to sit and talk with friends, reading books and reviewing lessons. Classroom tables and chairs are arranged neatly on a beautiful, because the students will learn. When changing lessons will be replaced with two rooms before students leave, they must be tables and chairs to be organized before the next lesson to learn, easy to use classroom of students, among others. Life inside the fence "yellow - red" I gained a lot of experience of both joy and sorrow, the grief cry of a friend and teacher. But the close of the day, I need to step away from the fence, "yellow - red" I felt unable to back happy times back and when approaching graduation, many friends complained that the period of six years at the school. this is short and many of them have dispersed to different classes to step up to adulthood. There would be no more bells jingle in the morning without a voice teacher called us to line voice singing the national anthem and the teachers do not come forward to complain to behave properly organized. In addition, the school also has a formal education and promote students to think up activities such as transfer of knowledge to the younger brother's guidance I found a place to study, and also has a camping novice ordination and ordained Enkkam. the authoress's practice was held at the school. We have what it takes to be a teacher consultant consultation at this time because the teacher. Both the love and warmth Take care in all areas Who was like a second mother of us. Initially thought to be afraid to meet new friends. Now that does not want to become the same as this. I'm glad to have a friend to everyone. I had a great experience throughout my education here. The school is very important to me and it would have cost to
school is not just a place to study, to learn, but also as my second home. This is where a second mother to all of us that love, warmth, and also the place where we meet with great new friendships. And life experiences that we can not buy me love, where "civil state school you fairly."