THEORETICAL FRAMEWORKThe Motivation

THEORETICAL FRAMEWORK
The Motivational Interviewing [18] (MINT) intervention is informed by Motivational Enhancement Theory [18], which incorporates principles drawn from Self-Determination Theory [19,20], and Self-Efficacy Theory [21]. Figure 1 provides a conceptual model showing the links between the theoretical components, behavior change, and BP reduction. The model depicted shows that the effect of MINT on BP reduction is mediated through enhancement of patients’ self-efficacy and increased intrinsic motivation. Thus, patients who undergo MINT will benefit from increased self-efficacy and be more intrinsically motivated to adopt the recommended TLC. The adherence to therapeutic lifestyle behaviors will in turn lead to BP reduction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรอบทฤษฎี
Motivational สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวแทรกแซง (มิ้นท์) [18] ได้รับแจ้งจากหัดปรับปรุงทฤษฎี [18], ซึ่งประกอบด้วยหลักวาดจากทฤษฎีเจตจำนง [19,20], ทฤษฎีประสิทธิภาพตนเอง [21] รูปที่ 1 แสดงแบบจำลองแนวคิดที่แสดงการเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีประกอบ พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง และลด BP แบบจำลองที่แสดงแสดงว่า ผลของมิ้นท์ลด BP เป็น mediated ผ่านของไข้ ประสิทธิภาพตนเอง และเพิ่ม intrinsic แรงจูงใจ ดังนั้น ผู้รับมินท์ป่วยจะได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพตนเองเพิ่มขึ้น และมีแรงจูงใจมากกว่าการทำเพื่อนำมาใช้ TLC แนะนำ ใช้ติดเพื่อรักษาวิถีชีวิตพฤติกรรมจะทำให้ลด BP

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรอบทฤษฎี
สร้างแรงบันดาลใจการสัมภาษณ์ [18] (MINT) การแทรกแซงได้รับแจ้งจากการเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างแรงบันดาลใจทฤษฎี [18] ซึ่งประกอบด้วยหลักการที่มาจากทฤษฎีการกำหนดชะตากรรมตนเอง [19,20] และรับรู้สมรรถนะตนเองทฤษฎี [21] รูปที่ 1 ให้รูปแบบความคิดที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างส่วนประกอบทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการลดความดันโลหิต รูปแบบภาพที่แสดงให้เห็นว่าผลกระทบของ บริษัท ในการลดความดันโลหิตเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของการรับรู้ความสามารถของตนเองของผู้ป่วยและเพิ่มแรงจูงใจภายใน ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับการ MINT จะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการรับรู้ความสามารถของตนเองและมีความแรงมากขึ้นจากภายในที่จะนำมาแนะนำ TLC ยึดมั่นในพฤติกรรมการดำเนินชีวิตการรักษาในทางกลับกันจะนำไปสู่การลดความดันโลหิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรอบทฤษฎีแรงจูงใจสัมภาษณ์
[ 18 ] ( มิ้นท์ ) การแทรกแซงโดยเพิ่มแรงจูงใจให้ทฤษฎี [ 18 ] ซึ่งประกอบด้วยหลักการมาจากทฤษฎีการกำหนด 19,20 ตนเอง [ ] , และ [ ทฤษฎีความสามารถตนเอง 21 ] รูปที่ 1 แสดงแนวคิดแบบจำลองแสดงการเชื่อมโยงระหว่างองค์ประกอบ ทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และลดความดันโลหิตรูปแบบภาพที่แสดงผลในการลดความดันโลหิตโดยมินต์ผ่านการรับรู้ความสามารถของตนเอง ของผู้ป่วย และสร้างแรงจูงใจเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยที่ผ่านจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มความสามารถมิ้นท์และเป็นแรงจูงใจภายในเพื่อใช้แนะนำ TLC . การรักษาพฤติกรรมวิถีชีวิตจะเปลี่ยนไปสู่การลดความดันโลหิต