Chichen ItzaThe Location of Chichen

Chichen Itza
The Location of Chichen Itza
Approximately 25 miles (120 kilometers) southeast of the city of Merida stand the ruins of Chichen Itza, the most famous of the Maya archaeological sites in the state of Yucatan.
Contrary to popular belief, the Maya were not an empire but a collection of autonomous city-states in frequent communication with other city-states in their region.
Chichen Itza and numerous other important Maya temple-cities were positioned according to a regional sacred geography.
The Maya practiced sacred geography on a large regional scale by the placement of their temple-cities at specific sites that mirrored the positions of various celestial objects observed in the night sky.






When was Chichen Itza built?
Proto-Mayan tribes had inhabited the flat limestone plateau that makes up much of the Yucatan peninsula for at least 8000 years.
Archaeologists believe that the site where the temple-city of Chichen Itza would later be built was already an important pilgrimage place in the first millennium B.C.
As a Maya social center, Chichen Itza began its rise to prominence with the arrival of a seafaring people in the eighth century. Called the Itza by archaeologists, these merchant warriors had first colonized the northern coastal areas of the Yucatan peninsula and then ventured inland. One of their first major settlement sites was in the vicinity of two large, natural sinkholes, called cenotes that provided plentiful and pure water throughout the year. Their city became known as Chichen Itza, which means "Mouth of the Well of the Itza". From this site, the Itza Maya rapidly became the rulers of much of the Yucatan peninsula.
Chichen Itza rose to regional prominence towards the end of what is called the Early Classic period, or approximately 600 AD. It was, however, towards the end of the Late Classic and into the early part of the Terminal Classic that the site became a major regional capitol, centralizing and dominating political, sociocultural, economic, and ideological life in the northern Maya lowlands.
During the Central Phase of the Classic Period (625 - 800 A.D.) the arts and sciences flourished. It was at this time that Chichen-Itza became a religious center of increasing importance and many of its greatest buildings were constructed.
Toward the end of the Classic Period, from 800 to 925 A.D., the foundations of this magnificent civilization weakened, and the Maya left many of their major religious centers and the rural land around them. New, smaller centers were built and the great cities like Chichen-Itza were mostly visited only to perform religious rites or bury the dead. The Itza people abandoned their city by the end of the 8th century A.D. and lived on the west coast of the peninsula for about 250 years. However, by the 10th century A.D. they returned to Chichen-Itza.
Some ethnohistoric sources claim that in about 987 a Toltec king named Quetzalcoatl left the city of Tula in central Mexico and came to Chichen Itza with a large army. With the help of local Maya allies he captured the city and made it his new capital. While some archaeology and history books still ascribe to this claim, it is now known that the Maya occupied Chichen Itza continuously. The Toltec influences found in the art and architecture of certain areas of the great city were the result of the patronage of a cosmopolitan nobility involved in trade with the Toltecs and other Mesoamerican peoples.
Around 1000 A.D. the Itza allied themselves with other powerful regional tribes and this alliance was favorable to the Itza for about two centuries. During this time, the people of Chichen-Itza added to the site by constructing magnificent buildings bearing the touch of Toltec art: porches, galleries, colonnades and carvings depicting serpents, birds and Mexican gods.
In 1194, the city of Mayapan broke the alliance and subdued Chichen Itza. The city was gradually abandoned. The Maya chronicles record that in 1221 a revolt and civil war broke out, and archaeological evidence seemed to confirm that the wooden roofs of the great market and the Temple of the Warriors were burned at about this date. Chichen Itza went into decline as rulership over Yucatan shifted to Mayapan.
This long-held chronology, however, has been revised in recent years. As more radiocarbon dates arise out of ongoing work at Chichen Itza, the end of this Maya capital is now being pushed back over 200 years. Archaeological data now indicates that Chichen Itza fell by around AD 1000.
While Chichen Itza itself was never completely abandoned, the population declined and no major new constructions were built following its political collapse. The Sacred Cenote, however, remained a place of pilgrimage.
In 1531 Spanish Conquistador Francisco de Montejo claimed Chichén Itzá and intended to make it the capital of Spanish Yucatan, but after a few months a native Maya revolt drove Montejo and his forces from the land.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชีเชนอิตซาที่ตั้งของชีเชนอิตซาประมาณ 25 ไมล์ (120 กิโลเมตร) ตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเดนท์เมริยืนซากปรักหักพังของชีเชนอิตซา มีชื่อเสียงมากที่สุดในของมายาโบราณคดีรัฐสเปนเค้าน์ มายาไม่อาณาจักรแต่คอลเลกชันของ city-states อิสระในการสื่อสารบ่อยด้วย city-states อื่น ๆ ในภูมิภาคของพวกเขาชีเชนอิตซาและจำนวนมากสำคัญมายาวัดเมืองอื่น ๆ ถูกวางตามภูมิศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์เป็นภูมิภาคมายาที่ฝึกฝนภูมิศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ในระดับภูมิภาคขนาดใหญ่โดยตำแหน่งของวัดเมืองที่ไซต์ที่ระบุที่มิเรอร์ตำแหน่งของวัตถุการฑูตต่าง ๆ สังเกตท้องฟ้ายามค่ำคืน เมื่อมีการสร้างขึ้นชีเชนอิตซาชนเผ่ามายาโปรโตได้อาศัยอยู่ราบสูงหินปูนแบนที่มากคาบสมุทรสเปนน้อย 8000 ปีนักโบราณคดีเชื่อว่า ไซต์ที่วัดเมืองชีเชนอิตซาจะสามารถสร้างได้แล้วเป็นสถานที่แสวงบุญที่สำคัญในมิลเลนเนียมแรกบีเป็นศูนย์สังคมมายา ชีเชนอิตซาเริ่มต้นสูงขึ้นเพื่อความโดดเด่นที่มาของคนชาวในศตวรรษแปด เรียกว่าอิตซา โดยนักโบราณคดี นักรบเหล่านี้ร้านค้ามีแรก colonized พื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของคาบสมุทรสเปน และ ventured เข้า หนึ่งของพวกเขาแรกการชำระเงินหลักได้อีกสองขนาดใหญ่ ธรรมชาติ sinkholes เรียกว่า cenotes ที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์ และบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี เมืองกลายเป็นว่าชีเชนอิตซา ซึ่งหมายถึง "ปากของดีของอิตซา" จากเว็บไซต์นี้ มายาอิตซาเป็น พระมากคาบสมุทรสเปนอย่างรวดเร็วชีเชนอิตซากุหลาบเพื่อความโดดเด่นของภูมิภาคในตอนท้ายของอะไรเรียกว่าระยะก่อนคลาสสิก หรือประมาณ 600 AD ได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนท้าย ของสายคลาสสิก และ เป็นส่วนแรกของการเทอร์มินัลคลาสสิกที่ไซต์กลายเป็น ความสำคัญภูมิภาคแคปิตอล ประกาศวาระ และมีอำนาจเหนือชีวิตทางการเมือง sociocultural เศรษฐกิจ และอุดมการณ์ในสกอตแลนด์ตอนใต้มายาเหนือในช่วงระยะกลางของรอบระยะเวลาคลาสสิก (625-800 A.D.) ศิลปะและวิทยาศาสตร์เจริญรุ่งเรือง มันเป็นที่นี้เวลาที่ชีเชนอิตซากลายเป็น ศูนย์กลางทางศาสนาเพิ่มความสำคัญ และหลายอาคารยิ่งใหญ่ที่สุดถูกสร้างขึ้นไปทางส่วนท้ายของคลาสสิก จาก 800 ไปคศ. 925 รากฐานของอารยธรรมแห่งนี้ลดลง และมายาที่เหลือศูนย์ศาสนาหลักของพวกเขาและที่ดินชนบทรอบ ๆ สร้างศูนย์ใหม่ ขนาดเล็ก และเมืองใหญ่เช่นชีเชนอิตซาได้เยี่ยมชมส่วนใหญ่เท่านั้นในการทำพิธีกรรมทางศาสนา หรือฝังคนตาย อิตซาคนละทิ้งเมือง โดยฝน 8 และอาศัยอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรประมาณ 250 ปี อย่างไรก็ตาม โดยฝน 10 ที่พวกเขากลับไปชีเชนอิตซาบางแหล่ง ethnohistoric เรียกร้องที่เกี่ยวกับ 987 กษัตริย์ Toltec ชื่อเกวตซัลโกอัตล์ซ้ายเมือง Tula ในเม็กซิโกกลาง และมากับกองทัพใหญ่ชีเชนอิตซา ด้วยความช่วยเหลือของพันธมิตรมายาท้องถิ่น เขายึดเมือง และทำให้เมืองหลวงใหม่ของเขา ในขณะที่บางเล่มประวัติศาสตร์และโบราณคดียัง ascribe การเรียกร้องนี้ เป็นตอนนี้ที่รู้จักกันว่า มายาที่ครอบครองชีเชนอิตซาอย่างต่อเนื่อง อิทธิพล Toltec ที่พบในศิลปะและสถาปัตยกรรมของบางพื้นที่ของเมืองได้ผลของการอุปถัมภ์ของขุนนางแห่งที่เกี่ยวข้องในการค้ากับ Toltecs และคนอื่น ๆ ในอเมริกากลางประมาณ 1000 A.D. อิตซาที่พ้องตัวเองกับเผ่าภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพ และพันธมิตรนี้เป็นอันการอิตซาประมาณสองศตวรรษ ในช่วงเวลานี้ คนของชีเชนอิตซาเพิ่มลงในไซต์ โดยสร้างอาคารสวยงามเรืองสัมผัสศิลปะ Toltec: porches แกลลอรี่ โคลอนเนดส์อ และแกะสลักแสดงงู นก และเทพเจ้าเม็กซิกันใน 1194 เมืองมายาปันยากจนพันธมิตร และสงบลงชีเชนอิตซา ค่อย ๆ มีละทิ้งเมือง มายาพงศาวดาร บันทึกว่า ใน 1221 กบฏและสงครามกลางเมืองร้องไห้ ประจักษ์หลักฐานทางโบราณคดียืนยันว่า หลังคาไม้ของตลาดมากและวัดของนักรบได้เขียนเกี่ยวกับวันที่นี้ ชีเชนอิตซาไปเข้าลดลงเป็น rulership กว่าสเปนจากมายาปันนี้ยาวจัดลำดับ อย่างไรก็ตาม มีการแก้ไขในปีที่ผ่านมา เป็น radiocarbon เพิ่มเติมเกิดขึ้นจากงานที่ต่อเนื่องที่ชีเชนอิตซา ตามเมืองหลวงนี้มายาคือตอนนี้กำลังผลักดันให้กลับกว่า 200 ปี ข้อมูลทางโบราณคดีขณะนี้บ่งชี้ว่า ชีเชนอิตซาตกโดยรอบ AD 1000ในขณะที่ชีเชนอิตซานั้นได้ถูกยกเลิก ไม่สมบูรณ์ประชากรสร้างก่อสร้างใหม่ที่ปฏิเสธ และไม่สำคัญต่อการเมืองการยุบ อย่างไรก็ตาม Cenote ศักดิ์สิทธิ์ ยังคงอยู่ สถานที่จาริกแสวงบุญใน 1531 อ้าง Chichén Itzá สเปน Conquistador Francisco de Montejo และมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นเมืองหลวงของสเปนสเปน แต่หลังจากไม่กี่เดือน กบฏเป็นมายาเป็นขับรถ Montejo และกองกำลังของเขาจากแผ่นดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Chichen Itza
สถานที่ตั้งของ Chichen Itza
ประมาณ 25 ไมล์ (120 กิโลเมตร) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเมริดายืนซากปรักหักพังของ Chichen Itza ที่มีชื่อเสียงที่สุดของแหล่งโบราณคดีมายาในรัฐยูคาทาน.
ขัดกับความเชื่อที่นิยมมายาไม่ได้ อาณาจักร แต่คอลเลกชันของตนเองเมืองรัฐในการสื่อสารบ่อยกับรัฐเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาคของพวกเขา.
Chichen Itza และอื่น ๆ อีกมากมายมายาที่สำคัญวัด-เมืองอยู่ในตำแหน่งตามภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่ศักดิ์สิทธิ์.
มายาได้รับการฝึกฝนภูมิศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาค ขนาดโดยตำแหน่งของเมืองวัดของพวกเขาได้ที่เว็บไซต์เฉพาะที่สะท้อนอยู่ในสถานะของวัตถุบนท้องฟ้าต่างๆที่สังเกตในท้องฟ้ากลางคืน. เมื่อได้รับการ Chichen Itza สร้างขึ้น? เผ่าโปรชาวมายันได้อาศัยอยู่ในที่ราบสูงหินปูนแบนที่ทำให้มากขึ้นของคาบสมุทรยูคาทาน เป็นเวลาอย่างน้อย 8,000 ปี. นักโบราณคดีเชื่อว่าเว็บไซต์ที่วัดเมืองของ Chichen Itza หลังจากนั้นก็จะมีการสร้างที่มีอยู่แล้วเป็นสถานที่แสวงบุญที่สำคัญในสหัสวรรษแรกบีซีในฐานะที่เป็นศูนย์กลางทางสังคมมายาChichen Itza เริ่มเพิ่มขึ้นที่จะมีชื่อเสียงกับการมาถึง ของคนเดินเรือในศตวรรษที่แปด ที่เรียกว่ารีโดยนักโบราณคดีนักรบผู้ประกอบการค้าเหล่านี้ได้เป็นครั้งแรกอาณานิคมพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตอนเหนือของคาบสมุทรยูคาทานแล้วลองบก หนึ่งในเว็บไซต์แรกที่สำคัญของพวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณใกล้เคียงของทั้งสองขนาดใหญ่ sinkholes ธรรมชาติที่เรียกว่า cenotes ที่ให้น้ำที่อุดมสมบูรณ์และบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี เมืองของพวกเขากลายเป็นที่รู้จัก Chichen Itza ซึ่งหมายความว่า "ปากดีของบรี" จากเว็บไซต์นี้มายารีอย่างรวดเร็วกลายเป็นผู้ปกครองของมากของคาบสมุทรยูคาทาน. Chichen Itza มีชื่อเสียงขึ้นมาในระดับภูมิภาคในช่วงสุดท้ายของสิ่งที่เรียกว่ายุคคลาสสิกในช่วงต้นหรือประมาณ 600 AD มันเป็นอย่างไรในช่วงปลายของสายคลาสสิคและในช่วงต้นของคลาสสิกเทอร์มิว่าเว็บไซต์ที่กลายเป็นหน่วยงานของรัฐที่สำคัญในระดับภูมิภาครวมศูนย์และมีอำนาจเหนือการเมืองสังคมวัฒนธรรมเศรษฐกิจและชีวิตอุดมการณ์ในที่ราบลุ่มมายาภาคเหนือ. ในช่วง ขั้นตอนกลางของยุคคลาสสิก (625-800 AD) ศิลปะและวิทยาศาสตร์เจริญรุ่งเรือง มันเป็นช่วงเวลาที่ Chichen-Itza กลายเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของการเพิ่มความสำคัญและอาคารหลายแห่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ถูกสร้างขึ้น. ในช่วงท้ายของยุคคลาสสิกที่ 800-925 AD, รากฐานของอารยธรรมที่สวยงามแห่งนี้อ่อนค่าลงและมายา เหลือจำนวนมากของศูนย์ทางศาสนาที่สำคัญของพวกเขาและที่ดินในชนบทรอบตัวพวกเขา ใหม่, ศูนย์ขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นและในเมืองที่ดีเยี่ยมเช่น Chichen Itza-กำลังมาเยือนส่วนใหญ่เท่านั้นที่จะประกอบพิธีทางศาสนาหรือฝังศพคนตาย คนที่ถูกทิ้งร้าง Itza เมืองของพวกเขาในตอนท้ายของศตวรรษที่ 8 และอาศัยอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรประมาณ 250 ปี อย่างไรก็ตามในศตวรรษที่ 10 พวกเขากลับไป Chichen Itza-. บางแหล่ง ethnohistoric อ้างว่าในประมาณ 987 พระมหากษัตริย์วัฒนธรรมเมโซชื่อ Quetzalcoatl ออกจากเมืองของ Tula ในภาคกลางของเม็กซิโกและมาถึง Chichen Itza กับกองทัพที่มีขนาดใหญ่ ด้วยความช่วยเหลือของพันธมิตรในท้องถิ่นมายาเขาถูกจับในเมืองและทำให้มันเป็นเมืองหลวงใหม่ของเขา ในขณะที่บางโบราณคดีและหนังสือประวัติศาสตร์ยังคงเหตุผลกับการเรียกร้องนี้เป็นที่รู้จักกันในขณะนี้ว่ามายาที่ถูกครอบครอง Chichen Itza อย่างต่อเนื่อง อิทธิพลวัฒนธรรมเมโซพบในศิลปะและสถาปัตยกรรมของพื้นที่บางส่วนของเมืองใหญ่เป็นผลมาจากการอุปถัมภ์ของสังคมชั้นสูงทั่วโลกมีส่วนร่วมในการค้ากับ Toltecs และประชาชน Mesoamerican อื่น ๆ . รอบ 1000 AD Itza พันธมิตรตัวเองกับชนเผ่าอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพและ พันธมิตรนี้เป็นที่ดีที่จะ Itza ประมาณสองศตวรรษ ในช่วงเวลานี้ผู้คนใน Chichen-Itza ที่เพิ่มให้กับเว็บไซต์โดยการสร้างอาคารที่งดงามแบกสัมผัสศิลปะวัฒนธรรมเมโซ:. ซุ้มแกลเลอรี่เสาและการแกะสลักภาพวาดงูนกและพระเจ้าเม็กซิกันใน1,194 เมืองของ Mayapan ยากจนพันธมิตร และถูกทำให้อ่อนลง Chichen Itza เมืองที่ถูกทิ้งร้างค่อยๆ มายาบันทึกไว้ว่าใน 1221 และการก่อจลาจลสงครามกลางเมืองโพล่งออกมาและหลักฐานทางโบราณคดีที่ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันว่าหลังคาไม้ของตลาดที่ดีและการวัดของนักรบถูกไฟไหม้ที่เกี่ยวกับวันนี้ Chichen Itza ลงไปเป็นในช่วงการปกครองของยูคาทานขยับไป Mayapan. นี้เหตุการณ์ถือยาว แต่ได้รับการแก้ไขในปีที่ผ่านมา เป็นมากเรดิโอวันเกิดขึ้นจากการทำงานอย่างต่อเนื่องใน Chichen Itza ในตอนท้ายของทุนนี้มายาขณะนี้ถูกผลักดันให้กลับกว่า 200 ปี ข้อมูลทางโบราณคดีในขณะนี้แสดงให้เห็นว่า Chichen Itza ลดลงประมาณ ค.ศ. 1000 ในขณะที่ Chichen Itza ตัวเองก็ไม่เคยทอดทิ้งประชากรที่ลดลงและไม่มีการก่อสร้างใหม่ที่สำคัญที่ถูกสร้างขึ้นหลังการล่มสลายทางการเมืองของตน ศักดิ์สิทธิ์ Cenote แต่ยังคงอยู่ในสถานที่แสวงบุญก. ใน 1531 สเปน Conquistador ฟรานซิสเดอ Montejo อ้าง Chichen Itza และตั้งใจที่จะทำให้มันเป็นเมืองหลวงของสเปนยูกาตัง แต่หลังจากไม่กี่เดือนประท้วงมายาพื้นเมืองขับรถ Montejo และกองกำลังของเขาจากที่ดิน .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สถานที่ตั้งของ Chichen Itza Chichen Itza

ประมาณ 25 ไมล์ ( 120 กิโลเมตร ) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง เมริดา ยืนอยู่ซากปรักหักพังของ Chichen Itza ที่มีชื่อเสียงที่สุดของชนเผ่ามายาโบราณสถานในรัฐ Yucatan .
ขัดกับความเชื่อที่นิยมมายาไม่ใช่จักรวรรดิ แต่คอลเลกชันของเมืองรัฐอิสระในการสื่อสาร บ่อยกับรัฐเมืองอื่น ๆในภูมิภาคของพวกเขา
Chichen Itza และหลายเมืองสำคัญอื่น ๆมายาวัดตําแหน่งตามภูมิศาสตร์ภูมิภาคศักดิ์สิทธิ์ .
มายาฝึกภูมิศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ในระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ โดยตำแหน่งของเมืองวัดเฉพาะเว็บไซต์ที่สะท้อนตำแหน่งของวัตถุต่าง ๆที่พบในท้องฟ้าท้องฟ้า






Chichen Itza เมื่อถูกสร้างขึ้น
จึงได้แบนมายันเผ่าอาศัยอยู่ที่ราบสูงหินปูนที่ทำให้มากขึ้นของคาบสมุทรยูกาตัง อย่างน้อย 8 , 000 ปี นักโบราณคดีเชื่อว่า
เว็บไซต์ที่วิหารเมือง Chichen Itza ภายหลังจะถูกสร้างขึ้นก็เป็นสถานที่แสวงบุญสำคัญในสหัสวรรษแรกก่อนคริสต์ศักราช
เป็นมายาทางสังคมศูนย์ของ Chichen Itza เริ่มลุกขึ้นไปโดดกับการมาถึงของคนเดินเรือในศตวรรษที่แปด เรียกว่า Itza โดยนักโบราณคดีนักรบพ่อค้าเหล่านี้ได้ยึดครองพื้นที่ชายฝั่งทางตอนเหนือของคาบสมุทรยูคาทาน แล้วก็ไปทะเล หนึ่งในหลักแรกของพวกเขาที่เว็บไซต์บริเวณสองหลุมยุบธรรมชาติขนาดใหญ่เรียก cenotes ที่ให้อุดมสมบูรณ์และน้ำบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี เมืองของพวกเขากลายเป็นที่รู้จักกันเป็น Chichen Itza ซึ่งหมายถึง " ปากบ่อน้ำของซา " จากเว็บไซต์นี้ ซามายาอย่างรวดเร็วกลายเป็นผู้ปกครองของมากของคาบสมุทรยูคาทาน ใน Chichen Itza กุหลาบ
โดดไปยังจุดสิ้นสุดของสิ่งที่เรียกว่าระยะเวลาคลาสสิกก่อน หรือประมาณ 600 AD . อย่างไรก็ตามต่อปลายสายคลาสสิกและในส่วนต้นของขั้วคลาสสิคที่เว็บไซต์ได้กลายเป็นหลักในภูมิภาคและส่วนกลางใน Capitol , การเมือง , ไทย , เศรษฐกิจ , และอุดมการณ์ชีวิตในภาคเหนือของมายาที่ลุ่ม .
ในระยะกลางช่วงคลาสสิก ( 625 - 800 AD ) ศิลปะและวิทยาศาสตร์เจริญรุ่งเรืองมันเป็นเวลาที่ Chichen Itza กลายเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของความสำคัญมากขึ้นและหลายของอาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันถูกสร้างขึ้น .
ไปยังจุดสิ้นสุดของระยะเวลาคลาสสิก จาก 800 เป็น 925 AD , รากฐานของอารยธรรมอันงดงามนี้อ่อนแอ และมายา ซ้ายมากของศูนย์ของหลักศาสนา และชนบท ที่ดินรอบ ๆพวกเขา ใหม่ศูนย์ขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นและเมืองใหญ่เช่น Chichen Itza ส่วนมากเข้าแต่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา หรือฝังตาย ที่ที่สุดคนทิ้งเมืองของพวกเขาโดยการสิ้นสุดของศตวรรษที่ 8 ) และอาศัยอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรประมาณ 250 ปี อย่างไรก็ตาม โดยศตวรรษที่ 10 และพวกเขากลับมาที่ Chichen Itza .
บางแหล่ง ethnohistoric อ้างว่าประมาณ 987 มีกษัตริย์ชื่อเดอะบีทเทิลส์ toltec ซ้ายเมือง Tula ในภาคกลางของเม็กซิโก และมาถึง Chichen Itza กับกองทัพขนาดใหญ่ ด้วยความช่วยเหลือของพันธมิตรท้องถิ่นมายา เขาถูกจับที่เมืองและสร้างเมืองหลวงใหม่ ในขณะที่บางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ ยังให้เหตุผลที่จะเรียกร้องนี้เป็นที่รู้จักกันในขณะนี้ว่า มายา ครอบครอง Chichen Itza อย่างต่อเนื่องโทลเท็คอิทธิพลที่พบในศิลปะและสถาปัตยกรรมในบางพื้นที่ของเมืองใหญ่ เป็นผลจากการอุปถัมภ์ของความไฮโซ มีส่วนร่วมในการค้ากับโทลเทคและประชาชน Mesoamerican อื่น ๆประมาณ 1000 AD ที่ซา
พันธมิตรตัวเองกับอื่น ๆที่มีประสิทธิภาพในภูมิภาคชนเผ่าและพันธมิตรนี้เป็นมงคลแก่ที่สุดประมาณสองศตวรรษ ในช่วงเวลานี้ผู้คนใน Chichen Itza เพิ่มไปยังเว็บไซต์โดยสร้างอาคารที่งดงามที่มีสัมผัสของ toltec ศิลปะ : Porches , แกลลอรี่ , colonnades และแกะสลักรูปงู นก และเทพเจ้าเม็กซิกัน
ในชิ้นงาน เมืองมายาพานพังพันธมิตรและปราบ Chichen Itza . เมืองค่อยทิ้ง มายาตำนานบันทึกว่าใน 950 กบฎและสงครามกลางเมืองโพล่งออกมาและหลักฐานทางโบราณคดีที่ดูเหมือนจะยืนยันว่า ไม้ หลังคาของตลาดที่ดีและ วิหารแห่งนักรบถูกเผาในวันนี้ หน่วยอัลฟาไปลดลงเป็นกฎมากกว่ายูคาตันเปลี่ยนมายาพาน .
ซึ่งจัดขึ้นนานเหตุการณ์ แต่ได้รับการปรับปรุงในช่วงหลายปีมานี้ เป็นอีกวันที่ขนาดลุกขึ้นจากการทำงานอย่างต่อเนื่อง ชิเชน อิตซาสิ้นเดือนนี้มายาเมืองหลวงถูกผลักดันกลับไปกว่า 200 ปี ข้อมูลทางโบราณคดีแล้วพบว่า Chichen Itza ลดลงประมาณ 1000 AD .
ในขณะที่ Chichen Itza ที่ตัวเองไม่เคยทอดทิ้ง ประชากรลดลงและไม่มีการก่อสร้างใหม่หลักถูกสร้างขึ้นต่อไปนี้ล่มสลายทางการเมืองของ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เซโนเต อย่างไรก็ตาม ยังคงเป็นสถานที่แสวงบุญ .
ใน 1541 สเปนผู้พิชิตฟรานซิสโก เดอ montejo อ้างว่า chich é n . kgm itz และตั้งใจที่จะทำให้เมืองหลวงของผืนทรายที่สเปน แต่หลังจากไม่กี่เดือนก่อกบฎมายาพื้นเมืองและขับรถ montejo กําลังของเขาจากแผ่นดิน