มาร์โค โปโล (Marco Polo) ในประเทศจีน มาร์โคโปโลเป็นลูกพ่อค้าชาวเมืองเว การแปล - มาร์โค โปโล (Marco Polo) ในประเทศจีน มาร์โคโปโลเป็นลูกพ่อค้าชาวเมืองเว ไทย วิธีการพูด

มาร์โค โปโล (Marco Polo) ในประเทศจี

มาร์โค โปโล (Marco Polo) ในประเทศจีน มาร์โคโปโลเป็นลูกพ่อค้าชาวเมืองเวนิส และได้ออกเดินทางทางบกไปถึงประเทศจีนกับบิดา และลุงของเขา เมื่อ ค.ศ. 1271 ซึ่งเป็นการเดินทางผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ในประวัติการค้นคว้าสำรวจครั้งหนึ่ง ในสมัยนั้นบิดาและลุงของมาร์โคโปโลได้เข้าไปอยู่ในประเทศจีนในฐานะพ่อค้า เมื่อกลับมาถึงเวนิสและจะออกเดินทางไปอีกได้นำเอามาร์โคโปโลลูกชายอายุ 17 ปีไปด้วย พร้อมกับหนังสือของพระสังฆราชไปยังพระเจ้ากุบไลข่าน จักรพรรดิแห่งประเทศจีน ตลอดระยะทาง มาร์โคโปโลได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาได้พบเห็นไว้หมดสิ้น เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับนครแบกแดด ศูนย์การค้าของพวกอาหรับ การเดินทางข้ามเทือกเขาฮินดูกูส และทะเลทรายเป็นต้น การเดินทางครั้งนั้นกินเวลา 3 ปี จึงไปถึงราชสำนักของพระเจ้ากุบไลข่าน ในประเทศจีน มาร์โคโปโลได้พบว่าเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เขาได้เห็นชาวเมืองใช้กระดาษแทนเงินตรา ใช้ถ่านหินก่อไฟผิง หุงต้มและใช้ในกิจการอื่น ๆ ตลอดจนได้พบเห็นการแกะตัวพิมพ์ด้วยไม้ และการพิมพ์ตัวหนังสือลงบนกระดาษ ฯลฯ อันเป็นความรู้ใหม่ของชาวยุโรป เช่น มาร์โคโปโล สมัยนั้น เมื่อไปอยู่ในราชสำนักนาน ๆ ไม่ช้า มาร์โคโปโลก็เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าข่าน เขาได้ถูกส่งให้ไปดูแลบ้านเมืองต่าง ๆ ของประเทศจีน และออกไปยังดินแดนของพม่า ธิเบต ขึ้นไปทางเหนือถึงดินแดนไซบีเรีย ได้เห็นสุนัขลากเลื่อน หมีขาว และชาวพื้นเมืองซึ่งนั่งบนเลื่อนน้ำแข็ง มีกวางเรนเดียร์ลากไปมา การเดินทางท่องเที่ยวของมาร์โคโปโลไปยังที่ต่าง ๆ โดยอาศัยความคุ้มครองของจักรพรรดิข่าน ทำให้เขาได้ทราบเรื่องราวของอาเซียตะวันออก ได้ดียิ่งกว่าชาวพื้นเมืองเสียอีก ทางประวัติศาสตร์จึงยกย่องว่า มาร์โคโปโลเป็นนักสำรวจค้นคว้าคนสำคัญคนหนึ่ง




เกิดวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 1797 (ค.ศ.1254) ณ เกาะคอรชูล่า ในประเทศโครเอเชียปัจจุบัน เสียชีวิต 8 มกราคม พ.ศ. 1866(ค.ศ.1324) เป็นนักเดินทางค้าขายและนักสำรวจชาวเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาร์โคโปโลเป็นชาวตะวันตกคนแรก ๆ ที่ได้เดินทางตามเส้นทางสายไหม (ร่วมกับบิดาและลุงของเขา) ไปยังประเทศจีน (ซึ่งเขาเรียกว่า คาเธ่ย์) และได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิกุบไล ข่านแห่งจักรวรรดิมองโกล ผู้เป็นหลานปู่ของเจงกีส ข่าน และได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหางโจวช่วยงานราชสำนักถึง 17 ปี ก่อนเดินทางกลับบ้านเกิดการเดินทางของเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสือชื่อ อิลมีลีโอเน (Il Milione)หรืออีกชื่อหนึ่งคือ การเดินทางของมาร์โคโปโล



มาร์โค โปโล นักเดินทางในสมัยกลางชาวอิตาเลี่ยน ถือว่าเป็นชาวยุโรปคนแรก ที่เดินทางข้ามทวีปเอเชีย และได้เขียนบันทึกการเดินทางเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้ยินได้ฟังเอาไว้. หนังสือบันทึกการเดินทางของเขาได้รับการรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า The Travels of Marco Polo, ในหนังสือเล่มดังกล่าว เขาได้อธิบายถึงทวีปๆหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักกันเลยสำหรับชาวยุโรปในยุคสมัยของเขา. เขาได้พรรณาถึงอารยธรรมเกี่ยวกับจีน ซึ่งเจริญเหนือกว่าวัฒนธรรม และเทคโนโลยีของชาวยุโรป. แต่เนื่องจากว่าบางส่วน มีนัยะที่เป็นไปในเชิงยกยอปอปั้น, หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้รับการพิจารณาในสาระสำคัญ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เสกสรรค์ขึ้นมา และเป็นเรื่องเกินความจริงไป. จนกระทั่งคริสตศตวรรษที่ 19 นักวิชาการและบรรดานักสำรวจทั้งหลาย จึงยืนยันถึงความถูกต้องเที่ยงตรงโดยทั่วๆไป เกี่ยวกับการสังเกตุการณ์ของมาร์โคโปโล

ครอบครัวของมาร์โคโปโล และการเดินทางของพวกเขา พ่อของมาร์โคโปโล, Niccolo, และลุงของเขา Maffeo เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งแห่ง Venetian Republic. ตอนที่มาร์โคยังเป็นเด็กอยู่ พ่อและลุงของเขาได้จากครอบครัวในเวนิส และออกเดินทางไกลไปในดินแดนที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ จนไปถึงประเทศจีน. ในช่วงเวลานั้น ไม่มีชาวคริสเตียนตะวันตกคนใดเท่าที่ทราบ ได้เคยเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน, และเมื่อตระกูลโปโลได้เดินทางไปถึงประเทศจีน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างอบอุ่นโดยผู้ปกครอง นามว่า Kublai Khan, จักรพรรดิ์แห่งมองโกลส์. กุปไบล ข่าน ได้สอบถามคนทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินแดนยุโรป. พระองค์ได้มอบหมายให้ทั้งคู่นำพระราชสาส์นไปมอบให้กับ Pope Clement IV เพื่อขอให้ทรงส่งผู้คนแก่เรียนจำนวน 100 คนมายังราชสำนักของพระองค์ เพื่อจะได้ถกกันถึงปัญหาธรรมมะ และสนทนากนถึงคุณความดีของคริสตศาสนา. ตระกูลโปโลได้รับปากว่า จะนำน้ำมันจากตะเกียงเหนือหลุมฝังพระศพขององค์พระเยซูคริสต์ในกรุงเยรูซาเล็มกลับมาด้วย ในปี 1269 สองพี่น้องตระกูลโปโล ได้เดินทางกลับมาถึงป้อมปราการ Crusader of Acre ในปาเลสไตน์ ฑูตของสันตะปาปาที่ Acre, Teobaldo Visconti, ได้ให้ข่าวแก่คนทั้งสองว่า Pope Clement ได้สิ้นพระชนม์แล้ว แต่ได้เร่งเร้าให้พวกเขาปฏิบัติตามพันธกิจของตน เมื่อองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับการเลือกตั้งขึ้น. สองพี่น้องตระกูลโปโลอธิบายว่า จะใช้เวลาในช่วงระหว่างนั้นไปเยี่ยมครอบครัวของตน, แต่ในขณะที่เดินทางกลับมายังบ้านเกิด Niccolo ได้ทราบข่าวว่า ภรรยาของเขาได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว. บุตรชายของเขา Marco ตอนนี้ก็มีอายุย่างเข้า 15 ปีแล้ว. การเลือกตั้งสันตะปาปาองค์ใหม่ได้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และหลังจากนั้นสองปี ผู้เป็นน้อง(หมายถึงพ่อของมาร์โค)ก็ตัดสินใจว่า ถ้าหากว่าพวกเขายังต้องรอต่อไปอีก มันจะสายเกินไปที่จะหวนกลับไปเฝ้าองค์จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ดังนั้นในปี 1271 พวกเขาจึงกลับไปยัง Acre และครั้งนี้เขาได้นำเอามาร์โค โปโลติดตามไปด้วย หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับฑูตของสันตะปาปา Teobaldo พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และไปรับเอาน้ำมันตะเกียงอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมน้ำมันตะเกียงและจดหมายฉบับหนึ่งจากท่านฑูตขององค์สันตะปาปา ตระกูลโปโลทั้งสามคนก็เริ่มออกเดินทางไกลไปยังประเทศจีน ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไกลครั้งนี้ พวกเขาได้รับรู้จาก Teobaldo เองว่าจะได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปา ตัวท่านเองจะเป็นผู้ตอบรับคำขอของจักรพรรดิ์กุปไบลข่าน แต่ว่าสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า Gregory X สามารถที่จะส่งผู้คงแก่เรียนหรือมิชชันนารีไปกับครอบครัวโปโลได้เพียง 2 คนเท่านั้น แทนที่จะเป็น 100 คนตามที่ได้มีพระราชสาส์นขอมา ถึงกระนั้นก็ตาม มิชชันนารีทั้งสองคนนี้ ต่อมาไม่นานก็ได้ละทิ้งการเดินทางนี้ไปเสีย. การเดินทางซึ่งต้องข้ามภูเขาและทะเลทรายแห่งเอเชีย ทำใ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
มาร์โค โปโล (Marco Polo) ในประเทศจีน มาร์โคโปโลเป็นลูกพ่อค้าชาวเมืองเวนิส และได้ออกเดินทางทางบกไปถึงประเทศจีนกับบิดา และลุงของเขา เมื่อ ค.ศ. 1271 ซึ่งเป็นการเดินทางผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ในประวัติการค้นคว้าสำรวจครั้งหนึ่ง ในสมัยนั้นบิดาและลุงของมาร์โคโปโลได้เข้าไปอยู่ในประเทศจีนในฐานะพ่อค้า เมื่อกลับมาถึงเวนิสและจะออกเดินทางไปอีกได้นำเอามาร์โคโปโลลูกชายอายุ 17 ปีไปด้วย พร้อมกับหนังสือของพระสังฆราชไปยังพระเจ้ากุบไลข่าน จักรพรรดิแห่งประเทศจีน ตลอดระยะทาง มาร์โคโปโลได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาได้พบเห็นไว้หมดสิ้น เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับนครแบกแดด ศูนย์การค้าของพวกอาหรับ การเดินทางข้ามเทือกเขาฮินดูกูส และทะเลทรายเป็นต้น การเดินทางครั้งนั้นกินเวลา 3 ปี จึงไปถึงราชสำนักของพระเจ้ากุบไลข่าน ในประเทศจีน มาร์โคโปโลได้พบว่าเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เขาได้เห็นชาวเมืองใช้กระดาษแทนเงินตรา ใช้ถ่านหินก่อไฟผิง หุงต้มและใช้ในกิจการอื่น ๆ ตลอดจนได้พบเห็นการแกะตัวพิมพ์ด้วยไม้ และการพิมพ์ตัวหนังสือลงบนกระดาษ ฯลฯ อันเป็นความรู้ใหม่ของชาวยุโรป เช่น มาร์โคโปโล สมัยนั้น เมื่อไปอยู่ในราชสำนักนาน ๆ ไม่ช้า มาร์โคโปโลก็เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าข่าน เขาได้ถูกส่งให้ไปดูแลบ้านเมืองต่าง ๆ ของประเทศจีน และออกไปยังดินแดนของพม่า ธิเบต ขึ้นไปทางเหนือถึงดินแดนไซบีเรีย ได้เห็นสุนัขลากเลื่อน หมีขาว และชาวพื้นเมืองซึ่งนั่งบนเลื่อนน้ำแข็ง มีกวางเรนเดียร์ลากไปมา การเดินทางท่องเที่ยวของมาร์โคโปโลไปยังที่ต่าง ๆ โดยอาศัยความคุ้มครองของจักรพรรดิข่าน ทำให้เขาได้ทราบเรื่องราวของอาเซียตะวันออก ได้ดียิ่งกว่าชาวพื้นเมืองเสียอีก ทางประวัติศาสตร์จึงยกย่องว่า มาร์โคโปโลเป็นนักสำรวจค้นคว้าคนสำคัญคนหนึ่ง เกิดวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 1797 (ค.ศ.1254) ณ เกาะคอรชูล่า ในประเทศโครเอเชียปัจจุบัน เสียชีวิต 8 มกราคม พ.ศ. 1866(ค.ศ.1324) เป็นนักเดินทางค้าขายและนักสำรวจชาวเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาร์โคโปโลเป็นชาวตะวันตกคนแรก ๆ ที่ได้เดินทางตามเส้นทางสายไหม (ร่วมกับบิดาและลุงของเขา) ไปยังประเทศจีน (ซึ่งเขาเรียกว่า คาเธ่ย์) และได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิกุบไล ข่านแห่งจักรวรรดิมองโกล ผู้เป็นหลานปู่ของเจงกีส ข่าน และได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหางโจวช่วยงานราชสำนักถึง 17 ปี ก่อนเดินทางกลับบ้านเกิดการเดินทางของเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสือชื่อ อิลมีลีโอเน (Il Milione)หรืออีกชื่อหนึ่งคือ การเดินทางของมาร์โคโปโล มาร์โค โปโล นักเดินทางในสมัยกลางชาวอิตาเลี่ยน ถือว่าเป็นชาวยุโรปคนแรก ที่เดินทางข้ามทวีปเอเชีย และได้เขียนบันทึกการเดินทางเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้ยินได้ฟังเอาไว้. หนังสือบันทึกการเดินทางของเขาได้รับการรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า The Travels of Marco Polo, ในหนังสือเล่มดังกล่าว เขาได้อธิบายถึงทวีปๆหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักกันเลยสำหรับชาวยุโรปในยุคสมัยของเขา. เขาได้พรรณาถึงอารยธรรมเกี่ยวกับจีน ซึ่งเจริญเหนือกว่าวัฒนธรรม และเทคโนโลยีของชาวยุโรป. แต่เนื่องจากว่าบางส่วน มีนัยะที่เป็นไปในเชิงยกยอปอปั้น, หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้รับการพิจารณาในสาระสำคัญ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เสกสรรค์ขึ้นมา และเป็นเรื่องเกินความจริงไป. จนกระทั่งคริสตศตวรรษที่ 19 นักวิชาการและบรรดานักสำรวจทั้งหลาย จึงยืนยันถึงความถูกต้องเที่ยงตรงโดยทั่วๆไป เกี่ยวกับการสังเกตุการณ์ของมาร์โคโปโล ครอบครัวของมาร์โคโปโล และการเดินทางของพวกเขา พ่อของมาร์โคโปโล, Niccolo, และลุงของเขา Maffeo เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งแห่ง Venetian Republic. ตอนที่มาร์โคยังเป็นเด็กอยู่ พ่อและลุงของเขาได้จากครอบครัวในเวนิส และออกเดินทางไกลไปในดินแดนที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ จนไปถึงประเทศจีน. ในช่วงเวลานั้น ไม่มีชาวคริสเตียนตะวันตกคนใดเท่าที่ทราบ ได้เคยเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน, และเมื่อตระกูลโปโลได้เดินทางไปถึงประเทศจีน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างอบอุ่นโดยผู้ปกครอง นามว่า Kublai Khan, จักรพรรดิ์แห่งมองโกลส์. กุปไบล ข่าน ได้สอบถามคนทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินแดนยุโรป. พระองค์ได้มอบหมายให้ทั้งคู่นำพระราชสาส์นไปมอบให้กับ Pope Clement IV เพื่อขอให้ทรงส่งผู้คนแก่เรียนจำนวน 100 คนมายังราชสำนักของพระองค์ เพื่อจะได้ถกกันถึงปัญหาธรรมมะ และสนทนากนถึงคุณความดีของคริสตศาสนา. ตระกูลโปโลได้รับปากว่า จะนำน้ำมันจากตะเกียงเหนือหลุมฝังพระศพขององค์พระเยซูคริสต์ในกรุงเยรูซาเล็มกลับมาด้วย ในปี 1269 สองพี่น้องตระกูลโปโล ได้เดินทางกลับมาถึงป้อมปราการ Crusader of Acre ในปาเลสไตน์ ฑูตของสันตะปาปาที่ Acre, Teobaldo Visconti, ได้ให้ข่าวแก่คนทั้งสองว่า Pope Clement ได้สิ้นพระชนม์แล้ว แต่ได้เร่งเร้าให้พวกเขาปฏิบัติตามพันธกิจของตน เมื่อองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับการเลือกตั้งขึ้น. สองพี่น้องตระกูลโปโลอธิบายว่า จะใช้เวลาในช่วงระหว่างนั้นไปเยี่ยมครอบครัวของตน, แต่ในขณะที่เดินทางกลับมายังบ้านเกิด Niccolo ได้ทราบข่าวว่า ภรรยาของเขาได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว. บุตรชายของเขา Marco ตอนนี้ก็มีอายุย่างเข้า 15 ปีแล้ว. การเลือกตั้งสันตะปาปาองค์ใหม่ได้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และหลังจากนั้นสองปี ผู้เป็นน้อง(หมายถึงพ่อของมาร์โค)ก็ตัดสินใจว่า ถ้าหากว่าพวกเขายังต้องรอต่อไปอีก มันจะสายเกินไปที่จะหวนกลับไปเฝ้าองค์จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ดังนั้นในปี 1271 พวกเขาจึงกลับไปยัง Acre และครั้งนี้เขาได้นำเอามาร์โค โปโลติดตามไปด้วย หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับฑูตของสันตะปาปา Teobaldo พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และไปรับเอาน้ำมันตะเกียงอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมน้ำมันตะเกียงและจดหมายฉบับหนึ่งจากท่านฑูตขององค์สันตะปาปา ตระกูลโปโลทั้งสามคนก็เริ่มออกเดินทางไกลไปยังประเทศจีน ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไกลครั้งนี้ พวกเขาได้รับรู้จาก Teobaldo เองว่าจะได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปา ตัวท่านเองจะเป็นผู้ตอบรับคำขอของจักรพรรดิ์กุปไบลข่าน แต่ว่าสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า Gregory X สามารถที่จะส่งผู้คงแก่เรียนหรือมิชชันนารีไปกับครอบครัวโปโลได้เพียง 2 คนเท่านั้น แทนที่จะเป็น 100 คนตามที่ได้มีพระราชสาส์นขอมา ถึงกระนั้นก็ตาม มิชชันนารีทั้งสองคนนี้ ต่อมาไม่นานก็ได้ละทิ้งการเดินทางนี้ไปเสีย. การเดินทางซึ่งต้องข้ามภูเขาและทะเลทรายแห่งเอเชีย ทำใ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
มาร์โค โปโล (Marco Polo) ในประเทศจีน มาร์โคโปโลเป็นลูกพ่อค้าชาวเมืองเวนิส และได้ออกเดินทางทางบกไปถึงประเทศจีนกับบิดา และลุงของเขา เมื่อ ค.ศ. 1271 ซึ่งเป็นการเดินทางผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ ในประวัติการค้นคว้าสำรวจครั้งหนึ่ง ในสมัยนั้นบิดาและลุงของมาร์โคโปโลได้เข้าไปอยู่ในประเทศจีนในฐานะพ่อค้า เมื่อกลับมาถึงเวนิสและจะออกเดินทางไปอีกได้นำเอามาร์โคโปโลลูกชายอายุ 17 ปีไปด้วย พร้อมกับหนังสือของพระสังฆราชไปยังพระเจ้ากุบไลข่าน จักรพรรดิแห่งประเทศจีน ตลอดระยะทาง มาร์โคโปโลได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขาได้พบเห็นไว้หมดสิ้น เช่น เรื่องราวเกี่ยวกับนครแบกแดด ศูนย์การค้าของพวกอาหรับ การเดินทางข้ามเทือกเขาฮินดูกูส และทะเลทรายเป็นต้น การเดินทางครั้งนั้นกินเวลา 3 ปี จึงไปถึงราชสำนักของพระเจ้ากุบไลข่าน ในประเทศจีน มาร์โคโปโลได้พบว่าเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ เขาได้เห็นชาวเมืองใช้กระดาษแทนเงินตรา ใช้ถ่านหินก่อไฟผิง หุงต้มและใช้ในกิจการอื่น ๆ ตลอดจนได้พบเห็นการแกะตัวพิมพ์ด้วยไม้ และการพิมพ์ตัวหนังสือลงบนกระดาษ ฯลฯ อันเป็นความรู้ใหม่ของชาวยุโรป เช่น มาร์โคโปโล สมัยนั้น เมื่อไปอยู่ในราชสำนักนาน ๆ ไม่ช้า มาร์โคโปโลก็เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าข่าน เขาได้ถูกส่งให้ไปดูแลบ้านเมืองต่าง ๆ ของประเทศจีน และออกไปยังดินแดนของพม่า ธิเบต ขึ้นไปทางเหนือถึงดินแดนไซบีเรีย ได้เห็นสุนัขลากเลื่อน หมีขาว และชาวพื้นเมืองซึ่งนั่งบนเลื่อนน้ำแข็ง มีกวางเรนเดียร์ลากไปมา การเดินทางท่องเที่ยวของมาร์โคโปโลไปยังที่ต่าง ๆ โดยอาศัยความคุ้มครองของจักรพรรดิข่าน ทำให้เขาได้ทราบเรื่องราวของอาเซียตะวันออก ได้ดียิ่งกว่าชาวพื้นเมืองเสียอีก ทางประวัติศาสตร์จึงยกย่องว่า มาร์โคโปโลเป็นนักสำรวจค้นคว้าคนสำคัญคนหนึ่ง




เกิดวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 1797 (ค.ศ.1254) ณ เกาะคอรชูล่า ในประเทศโครเอเชียปัจจุบัน เสียชีวิต 8 มกราคม พ.ศ. 1866(ค.ศ.1324) เป็นนักเดินทางค้าขายและนักสำรวจชาวเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาร์โคโปโลเป็นชาวตะวันตกคนแรก ๆ ที่ได้เดินทางตามเส้นทางสายไหม (ร่วมกับบิดาและลุงของเขา) ไปยังประเทศจีน (ซึ่งเขาเรียกว่า คาเธ่ย์) และได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิกุบไล ข่านแห่งจักรวรรดิมองโกล ผู้เป็นหลานปู่ของเจงกีส ข่าน และได้ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองหางโจวช่วยงานราชสำนักถึง 17 ปี ก่อนเดินทางกลับบ้านเกิดการเดินทางของเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสือชื่อ อิลมีลีโอเน (Il Milione)หรืออีกชื่อหนึ่งคือ การเดินทางของมาร์โคโปโล



มาร์โค โปโล นักเดินทางในสมัยกลางชาวอิตาเลี่ยน ถือว่าเป็นชาวยุโรปคนแรก ที่เดินทางข้ามทวีปเอเชีย และได้เขียนบันทึกการเดินทางเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้ยินได้ฟังเอาไว้. หนังสือบันทึกการเดินทางของเขาได้รับการรู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า The Travels of Marco Polo, ในหนังสือเล่มดังกล่าว เขาได้อธิบายถึงทวีปๆหนึ่ง ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักกันเลยสำหรับชาวยุโรปในยุคสมัยของเขา. เขาได้พรรณาถึงอารยธรรมเกี่ยวกับจีน ซึ่งเจริญเหนือกว่าวัฒนธรรม และเทคโนโลยีของชาวยุโรป. แต่เนื่องจากว่าบางส่วน มีนัยะที่เป็นไปในเชิงยกยอปอปั้น, หนังสือเล่มนี้จึงไม่ได้รับการพิจารณาในสาระสำคัญ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เสกสรรค์ขึ้นมา และเป็นเรื่องเกินความจริงไป. จนกระทั่งคริสตศตวรรษที่ 19 นักวิชาการและบรรดานักสำรวจทั้งหลาย จึงยืนยันถึงความถูกต้องเที่ยงตรงโดยทั่วๆไป เกี่ยวกับการสังเกตุการณ์ของมาร์โคโปโล

ครอบครัวของมาร์โคโปโล และการเดินทางของพวกเขา พ่อของมาร์โคโปโล, Niccolo, และลุงของเขา Maffeo เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งแห่ง Venetian Republic. ตอนที่มาร์โคยังเป็นเด็กอยู่ พ่อและลุงของเขาได้จากครอบครัวในเวนิส และออกเดินทางไกลไปในดินแดนที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ จนไปถึงประเทศจีน. ในช่วงเวลานั้น ไม่มีชาวคริสเตียนตะวันตกคนใดเท่าที่ทราบ ได้เคยเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน, และเมื่อตระกูลโปโลได้เดินทางไปถึงประเทศจีน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างอบอุ่นโดยผู้ปกครอง นามว่า Kublai Khan, จักรพรรดิ์แห่งมองโกลส์. กุปไบล ข่าน ได้สอบถามคนทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินแดนยุโรป. พระองค์ได้มอบหมายให้ทั้งคู่นำพระราชสาส์นไปมอบให้กับ Pope Clement IV เพื่อขอให้ทรงส่งผู้คนแก่เรียนจำนวน 100 คนมายังราชสำนักของพระองค์ เพื่อจะได้ถกกันถึงปัญหาธรรมมะ และสนทนากนถึงคุณความดีของคริสตศาสนา. ตระกูลโปโลได้รับปากว่า จะนำน้ำมันจากตะเกียงเหนือหลุมฝังพระศพขององค์พระเยซูคริสต์ในกรุงเยรูซาเล็มกลับมาด้วย ในปี 1269 สองพี่น้องตระกูลโปโล ได้เดินทางกลับมาถึงป้อมปราการ Crusader of Acre ในปาเลสไตน์ ฑูตของสันตะปาปาที่ Acre, Teobaldo Visconti, ได้ให้ข่าวแก่คนทั้งสองว่า Pope Clement ได้สิ้นพระชนม์แล้ว แต่ได้เร่งเร้าให้พวกเขาปฏิบัติตามพันธกิจของตน เมื่อองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับการเลือกตั้งขึ้น. สองพี่น้องตระกูลโปโลอธิบายว่า จะใช้เวลาในช่วงระหว่างนั้นไปเยี่ยมครอบครัวของตน, แต่ในขณะที่เดินทางกลับมายังบ้านเกิด Niccolo ได้ทราบข่าวว่า ภรรยาของเขาได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว. บุตรชายของเขา Marco ตอนนี้ก็มีอายุย่างเข้า 15 ปีแล้ว. การเลือกตั้งสันตะปาปาองค์ใหม่ได้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และหลังจากนั้นสองปี ผู้เป็นน้อง(หมายถึงพ่อของมาร์โค)ก็ตัดสินใจว่า ถ้าหากว่าพวกเขายังต้องรอต่อไปอีก มันจะสายเกินไปที่จะหวนกลับไปเฝ้าองค์จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ดังนั้นในปี 1271 พวกเขาจึงกลับไปยัง Acre และครั้งนี้เขาได้นำเอามาร์โค โปโลติดตามไปด้วย หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับฑูตของสันตะปาปา Teobaldo พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และไปรับเอาน้ำมันตะเกียงอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมน้ำมันตะเกียงและจดหมายฉบับหนึ่งจากท่านฑูตขององค์สันตะปาปา ตระกูลโปโลทั้งสามคนก็เริ่มออกเดินทางไกลไปยังประเทศจีน ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไกลครั้งนี้ พวกเขาได้รับรู้จาก Teobaldo เองว่าจะได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปา ตัวท่านเองจะเป็นผู้ตอบรับคำขอของจักรพรรดิ์กุปไบลข่าน แต่ว่าสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า Gregory X สามารถที่จะส่งผู้คงแก่เรียนหรือมิชชันนารีไปกับครอบครัวโปโลได้เพียง 2 คนเท่านั้น แทนที่จะเป็น 100 คนตามที่ได้มีพระราชสาส์นขอมา ถึงกระนั้นก็ตาม มิชชันนารีทั้งสองคนนี้ ต่อมาไม่นานก็ได้ละทิ้งการเดินทางนี้ไปเสีย. การเดินทางซึ่งต้องข้ามภูเขาและทะเลทรายแห่งเอเชีย ทำใ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
马可波罗,马可波罗(中国)威尼斯马可波罗杂货陆路到达中国,开始与他的父亲和叔叔在公元这是一次伟大的冒险旅行1271历史研究探索。当年马可波罗的父亲和叔叔在中国作为一个商人。17年。随着主教神书到中国皇帝忽必烈记录ตลอดระยะทาง马可波罗的故事在他看到了如巴格达城的故事。穿越山脉和沙漠旅行,印度谷等,持续3年。所以到神的宫廷忽必烈马可波罗在中国发现的土地充满了奇迹。用煤生火做饭用平和其他企业也看到羊木活字印刷字体写在纸上,作为新知识等的欧洲人,如马可波罗那时在宫廷中。马可波罗是上帝的眷顾,汗他被派去治理这个国家的中国,到缅甸北部领土上的藏族地区西伯利亚雪橇犬。北极熊有驯鹿拉。马可波罗的旅行到不同于保护皇帝的汗。让他知道东盟东部的故事。比人好。探险家马可波罗是一个重要的研究。



发生1254年9月15日1254年)在珊瑚岛(Shula克罗地亚目前死亡8一月1323年(公元1324)交易,威尼斯探险家旅行家马可波罗意大利第一个西方沿着丝绸之路。(与他的父亲和叔叔)到中国(国泰)。可汗蒙古帝国,成吉思汗的孙子,住在杭州市法院17年帮助了在回家的路上发生了他的旅行记在IL基因(IL。马可波罗的旅程!


中世纪意大利旅行家马可波罗被认为是欧洲第一个穿越亚洲写游记,关于他所听到的。
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: