Naruedee Jodsanthia, the upper seco

Naruedee Jodsanthia, the upper secondary school student, and her mother said on Tuesday that on Aug 8, Mr Paitoon had thrown a ceramic mug at Naruedee for disobeying his order.
After sitting for a while, Naruedee and 6-7 students stood up because the sunlight was so strong at their spot. Seeing that, the teacher threw a mug in which he put the draw tickets without specifically aiming at anyone, and scolded them in rude language
Ms Naruedee said the mug hit her on the left eyebrow, inflicting a nerve injury that later caused her mouth to twist to the right and not close properly. As local hospitals were unable to treat her, the family sought treatment in Bangkok.
Pranee Jodsanthia, 48, took her case to the media on Tuesday, complaining that although she had filed a complaint with police over a month ago, they had taken no action.
Mrs Pranee alleged that her 17-year-old daughter Naruedee had suffered facial nerve damage when hit by a ceramic cup thrown at her by a teacher at Chokchai Samakkee School in Nakhon Ratchasima's Chok Chai district.
She had decided to seek help from the media while they were in Pathum Thani, on their way to Ramathibodi Hospital in Bangkok.
Miss Naruedee, known as Sai, said that on Aug 8 the physical education teacher at the school made the students sit in rows outdoors while waiting for his class. However, she had to stand up because the ground was too hot to sit on where she was.
The teacher, she identified only as Paitoon, became furious and allegedly threw a ceramic cup which hit her on the left eyebrow. She claimed the teacher said he intended to inflict a cut on her head.
Miss Naruedee said she did not tell her parents when she returned home that day, but that night when she was brushing her teeth, water poured out of her mouth, and she was unable to close it completely.
Looking in a mirror, she saw her mouth was twisted to the right. When she went to bed she was unable to close her left eye.
Miss Naruedee said she and her mother went to Chok Chai police station the following day, but police there did not give them a copy of the complaint for fear the family would post the matter online.
Mrs Pranee said she met the school's director, who first promised to pay all medical costs for the treatment of her daughter. At the time she was satisfied, but treatments at hospitals in Nakhon Ratchasima were unsuccessful. Her daughter's face remained deformed because the nerve was swollen.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Naruedee Jodsanthia นักเรียนโรงเรียนมัธยมปลาย และแม่ของเธอกล่าวว่า ในวันอังคารว่า บน 8 สิงหาคม แล้วนายไพฑูรย์ได้โยนแก้วน้ำเซรามิกที่ Naruedee สำหรับการเชื่อฟังคำสั่งของเขา หลังจากนั่งในขณะที่ Naruedee และ 6-7 นักเรียนลุกขึ้นยืนเพราะ แสงแดดเป็นแข็งแรงที่จุดของพวกเขา เห็นที่ ครูโยนแก้วที่เขาใส่ตั๋ววาดโดยไม่ต้องเล็งไปที่ทุกคนโดยเฉพาะ และ scolded พวกเขาในภาษาหยาบคาย Ms Naruedee กล่าวแก้วตีเธอบนคิ้วซ้าย ทำอาการบาดเจ็บของเส้นประสาทที่เกิดจากปากของเธอจะบิดไปทางขวา และไม่ปิดอย่างถูกต้องในภายหลัง ณโรงพยาบาลในท้องถิ่นไม่สามารถรักษาเธอ ครอบครัวที่ต้องการรักษาในกรุงเทพมหานคร ปราณี Jodsanthia, 48 เอากรณีของเธอกับสื่อวันอังคาร บ่นว่า แม้ว่าเธอได้ยื่นร้องเรียนกับตำรวจมากกว่าเดือนที่แล้ว พวกเขาได้นำการดำเนินการ นางปราณีถูกกล่าวหาว่า ลูกสาวของเธออายุ 17 ปี Naruedee ได้ประสบกับความเสียหายของเส้นประสาทใบหน้าเมื่อโดนถ้วยเซรามิกที่เธอโยน โดยเป็นครูที่โรงเรียนโชคชัยสามัคคีอำเภอโชคชัยจังหวัดนครราชสีมา เธอได้ตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากสื่อในขณะที่พวกเขาอยู่ในปทุมธานี ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีกรุงเทพมหานคร นางสาว Naruedee ทราย ที่รู้จักกันบอกว่า บน 8 สิงหาคมครูพลศึกษาที่โรงเรียนทำให้นักเรียนนั่งแถวแจ้งขณะรอของเขา อย่างไรก็ตาม เธอต้องยืนขึ้นเพราะร้อนเกินไปนั่งที่เธอเป็นพื้นดิน ครู เธอเท่านั้นเป็นคอลเล็คชั่นแอนด์ กลายเป็นโกรธ และถูกกล่าวหาว่าโยนถ้วยเซรามิกซึ่งตีเธอบนคิ้วซ้าย เธออ้างว่า ครูกล่าวว่า เขาตั้งใจสร้างตัดหัวของเธอ นางสาว Naruedee กล่าวว่า เธอไม่ได้บอกเธอพ่อแม่เมื่อเธอกลับบ้านวันนั้น แต่เมื่อเธอแสดงความสามารถในการแปรงฟันของเธอ คืนนั้นน้ำที่ไหลรินจากปากของเธอ และเธอก็ไม่ได้ปิดอย่างสมบูรณ์ เธอมองในกระจก เห็นปากของเธอถูกบิดไปทางขวา เมื่อเธอไปที่เตียง เธอไม่สามารถปิดตาซ้ายของเธอ นางสาว Naruedee กล่าวว่า เธอและแม่ของเธอไปสถานีตำรวจโชคชัยวัน แต่มีตำรวจไม่ได้ให้พวกเขาสำเนาของการร้องเรียนเพราะกลัว ครอบครัวจะโพสต์เรื่องออนไลน์ นางปราณีกล่าวว่า เธอได้พบกับกรรมการของโรงเรียน ที่แรก สัญญาว่า จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดในการรักษาลูกสาวของเธอ เวลาเธอพอใจ แต่การรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดนครราชสีมาได้สำเร็จ ใบหน้าของลูกสาวของเธอยังคงพิการเนื่องจากเส้นประสาทถูกบวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Naruedee Jodsanthia, บนนักเรียนโรงเรียนมัธยมและแม่ของเธอกล่าวว่าในวันอังคารว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายไพฑูรย์ได้โยนแก้วเซรามิกที่ Naruedee ไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา.
หลังจากนั่งในขณะที่ Naruedee และนักเรียน 6-7 ยืนขึ้นเพราะ แสงแดดเป็นแข็งแรงเพื่อที่จุดของพวกเขา เห็นว่าครูโยนแก้วที่เขาใส่ตั๋ววาดโดยไม่ต้องเฉพาะเล็งไปที่ทุกคนและดุพวกเขาในภาษาหยาบคาย
นางสาว Naruedee กล่าวว่าแก้วตีเธอบนคิ้วซ้ายก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บที่เส้นประสาทในภายหลังว่าเกิดจากปากของเธอที่จะบิด ไปทางขวาและไม่ปิดอย่างถูกต้อง ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลท้องถิ่นไม่สามารถที่จะปฏิบัติต่อเธอครอบครัวพยายามรักษาในกรุงเทพฯ.
ปราณี Jodsanthia, 48, เอากรณีของเธอกับสื่อในวันอังคารที่บ่นว่าแม้ว่าเธอได้ยื่นเรื่องร้องเรียนกับตำรวจในช่วงเดือนที่ผ่านมาพวกเขาได้รับการดำเนินการใด ๆ .
นางปราณีที่ถูกกล่าวหาว่าลูกสาว 17 ปีของเธอ Naruedee ได้รับความเสียหายของเส้นประสาทใบหน้าเมื่อโดนถ้วยเซรามิกโยนที่เธอโดยครูที่โชคชัยสามัคคีของโรงเรียนในอำเภอโชคชัยจังหวัดนครราชสีมาของ.
เธอได้ตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือจากสื่อ ในขณะที่พวกเขาอยู่ในปทุมธานี, ระหว่างทางไปโรงพยาบาลรามาธิบดีในกรุงเทพฯ.
นางสาว Naruedee เป็นที่รู้จักไทรกล่าวว่าในวันที่ 8 สิงหาคมครูพลศึกษาในโรงเรียนทำให้นักเรียนนั่งอยู่ในแถวนอกขณะที่รอให้ชั้นเรียนของเขา แต่เธอต้องยืนขึ้นเพราะพื้นดินเป็นร้อนเกินไปที่จะนั่งบนที่เธอเป็น.
ครูที่เธอระบุเพียงว่าไพฑูรย์กลายเป็นโกรธและถูกกล่าวหาว่าโยนถ้วยเซรามิกซึ่งตีเธอบนคิ้วซ้าย เธออ้างว่าครูกล่าวว่าเขาตั้งใจที่จะสร้างความเจ็บปวดตัดบนศีรษะของเธอ.
นางสาว Naruedee บอกว่าเธอไม่ได้บอกพ่อแม่ของเธอเมื่อเธอกลับบ้านในวันนั้น แต่ในคืนนั้นเมื่อเธอได้รับการแปรงฟันของเธอน้ำเทออกมาจากปากของเธอและเธอ ก็ไม่สามารถที่จะปิดมันสมบูรณ์.
มองในกระจกเธอเห็นปากของเธอถูกบิดไปทางขวา เมื่อเธอเดินไปที่เตียงเธอก็ไม่สามารถที่จะปิดตาข้างซ้ายของเธอ.
นางสาว Naruedee บอกว่าเธอและแม่ของเธอไปที่สถานีตำรวจโชคชัยในวันรุ่งขึ้น แต่ตำรวจมีไม่ได้ให้พวกเขามีสำเนาของการร้องเรียนเพราะกลัวครอบครัวจะโพสต์ เรื่องออนไลน์.
นางปราณีกล่าวว่าเธอได้พบกับผู้อำนวยการโรงเรียนคนแรกที่สัญญาว่าจะจ่ายค่าใช้จ่ายทางการแพทย์สำหรับการรักษาของลูกสาวของเธอ ในเวลาที่เธอเป็นที่น่าพอใจ แต่การรักษาในโรงพยาบาลในจังหวัดนครราชสีมาไม่ประสบความสำเร็จ ใบหน้าของลูกสาวของเธอยังคงพิการเพราะเส้นประสาทบวมเป่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

naruedee jodsanthia นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และแม่ของเธอกล่าวว่าในวันอังคารที่ 8 สิงหาคม นายไพฑูรย์ ได้โยนถ้วยเซรามิกที่ naruedee สำหรับไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาหลังจากที่นั่งสักพัก นักเรียน นักศึกษา และ naruedee 6-7 ยืนขึ้น เพราะแดดมันแรงมากที่จุดของพวกเขา เห็นว่า ครูโยนแก้วที่เขาวางวาดตั๋วโดยเฉพาะเป้าหมายที่ใครๆ และตำหนิพวกเขาในภาษาไม่สุภาพนางสาว naruedee บอกว่าตะหลิวตีเธอบนคิ้วซ้าย ทำให้เส้นประสาทบาดเจ็บที่หลัง ทำให้ปากของเธอบิดไปทางขวา และไม่ปิดอย่างถูกต้อง เป็นโรงพยาบาลในท้องถิ่นไม่สามารถที่จะรักษาเธอ ครอบครัวแสวงหาการรักษาในกรุงเทพปราณี jodsanthia , 48 , เอากระเป๋าของเธอกับสื่อเมื่อวันอังคาร บ่นว่าถึงแม้ว่าเธอได้ยื่นร้องเรียนกับตำรวจเมื่อเดือนที่แล้ว พวกเขาได้ไม่มีการกระทำนางปราณี กล่าวหาว่า เธออายุ 17 ปี ลูกสาว naruedee ได้รับความเดือดร้อนความเสียหายของเส้นประสาทที่ใบหน้าเมื่อตีโดยถ้วยเซรามิกขว้างใส่เธอ จากครูที่โรงเรียนโชคชัยสามัคคี จ. นครราชสีมา ของ โชคชัย อ. เมืองเธอจึงตัดสินใจที่จะขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ในขณะที่พวกเขาอยู่ที่ปทุมธานี ทางโรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานครนางสาว naruedee เรียกว่าไทร กล่าวว่า เมื่อ ส.ค. 8 ครูพลศึกษาในโรงเรียน ให้นักเรียนนั่งเป็นแถวกลางแจ้งในขณะที่รอชั้นเรียนของเขา อย่างไรก็ตาม , เธอต้องยืนขึ้น เพราะพื้นดินร้อนเกินกว่าจะนั่งไหนอาจารย์ เธอระบุเพียงไพฑูรย์ กลายเป็นโกรธและกล่าวหาว่าโยนถ้วยเซรามิคที่โดนเธอบนคิ้วซ้าย เธออ้างว่าครูบอกว่าเขาตั้งใจลงโทษตัดศีรษะของเธอนางสาว naruedee บอกว่าเธอไม่ได้บอกพ่อแม่ของเธอเมื่อเธอกลับมาบ้านวันนั้น แต่คืนนั้นตอนแปรงฟัน น้ำรินออกจากปากของเธอ และเธอก็ไม่สามารถปิดได้หมดมองในกระจก เธอเห็นปากของเธอถูกบิดไปทางขวา เมื่อเธอเดินไปที่เตียง เธอไม่สามารถที่จะปิดดวงตาข้างซ้ายของเธอนางสาว naruedee กล่าวว่าเธอและแม่ของเธอไปทาง สถานีตำรวจ ชัย ในวันต่อไป แต่ทางตำรวจไม่ได้ให้สำเนาของข้อร้องเรียนเพราะกลัวครอบครัวจะโพสต์ขึ้นออนไลน์ของพวกเขานางปราณี กล่าวว่า เธอได้พบกับผู้อำนวยการโรงเรียนคนแรกที่สัญญาว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดสำหรับการรักษาของลูกสาวของเธอ เวลาที่เธอพอใจ แต่การรักษาที่ โรงพยาบาลใน จ. นครราชสีมา ยังไม่สำเร็จ หน้าลูกสาวของเธอยังคงพิการเพราะเส้นประสาทถูกบวม