บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสา การแปล - บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสา ไทย วิธีการพูด

บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้

บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสาบกลางป่าอยู่ขณะกำลัง กินน้ำเพลิน เสือโคร่งตัวหนึ่งเดินผ่านมาเมื่อเห็นกระจงเข้า เสือโคร่งก็หยุดแล้วหัวเราะด้วยสำเนียงที่สำแดงความชั่วร้ายคำรามออกมาว่า "โอ้โฮ้! เจ้ากระจงน้อยช่างเป็นอาหารโอชามื้อนี้ของข้าเสียนี่กระไรเร็วเข้า มาให้ข้ากินเสียดี ๆ ข้ายังไม่มีอะไรใส่ท้องมาเลยทั้งวัน"
"นี่ท่านไม่มีอะไรจะกินมาทั้งวันทีเดียวรึ" กระจงถามแกล้งทำเป็นเสียใจด้วยกับเสือโคร่ง แต่แท้ที่จริงตัวมันเองกำลังสั่นพั่บ ๆ ด้วยความเสียวสยองเมื่อแลเห็นขากรรไกรอันกว้างใหญ่ และฟันอันแหลมเปี๊ยบขาวราวกับงาช้างของเจ้าเสือตัวร้าย
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดที่จะไม่แสดงให้เสือรู้ว่าตนกลัว ยังคงพูดต่อไปว่า"โธ่เอ้ย! คุณเสือนี่น่าสงสารจริง ๆ นะ ข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารดีๆ แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าสัตว์กระจ้อยร่อยอย่างข้าพเจ้านี้จะเป็นอาหารที่ท่านจะกินได้อิ่มให้สมกับที่ทนหิวมาได้หรอก"
"แต่ข้ากำลังหิวนะโว้ย" เสือคำรามตวาดลั่น อย่างอดทนไม่ไหว
"นึกออกแล้ว" กระจงร้องออกมา ภายในใจก็คิดวางแผน
"ไอ้ที่จะทำให้ท่านหายหิว นั่นมันต้องเนื้อคนถึงจะสมอยาก"
"คนน่ะมันเป็นยังไง เจ้ากระจง"
"นี่ท่านไม่รู้เอาเทียวหรือว่า คนนั้นคืออะไร" กระจงอุทาน ทำเป็นแปลกใจ
"เออ ข้าไม่คิดว่าข้ารู้" เสือตอบ ชักจะสนใจอยากรู้ขึ้นมา
"ไหนบอกข้าหน่อยซิ เจ้ากระจงว่าคนน่ะคืออะไร"
"ก็ได้" กระจงว่า ดีใจที่เจ้าเสือร้ายตกหลุมพรางของตัว "คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง มีขาสองขา แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่มีอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก"
"จริงรึ อำนาจมากยิ่งกว่าข้าอีกรึ" เสือถาม ชักจะขัดใจขึ้นมาแล้ว "จริงแน่ แต่ถ้าท่านไวพอ ท่านโดดเข้าตะปบมันไว้ ท่านก็กินมันได้สบาย" "เออดี แต่ถ้าข้าหาคนกินไม่ได้ล่ะ เจ้าก็ต้องเป็นอาหารของข้านา มาต่อรองกันแบบนี้ดีไหมล่ะ" "ตกลง" กระจงร้องตอบอย่างพอใจ
"แล้วข้าจะไปหาคนได้ที่ไหนล่ะ พามาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ซี เพราะว่าข้าหิวเต็มทนแล้วนะ ถ้าเจ้าไม่รีบไปหามาข้าจะต้องกินเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ล่ะ" "ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ท่านเสือโคร่งผู้ยิ่งใหญ่" กระจงตอบ "มา ไปด้วยกันที่ริมถนนใหญ่ บางทีเราจะได้เห็นคนผ่านมาสักคนหนึ่ง"
แล้วกระจงก็พาเสือโคร่งไปริมถนนใหญ่ ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้คอยเวลาที่คนจะเดินผ่านมา ไม่ช้าก็มีเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินกลับจากโรงเรียน เด็กคนนั้นมัวแต่พะวงอยู่กับการบ้านเสียจนไม่ทันสังเกตว่ามีสัตว์สองตัวกำลังแอบดูตนอยู่ "นี่น่ะหรือคน" เสือโคร่งถาม "โธ่เอ๋ย! แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ข้าต้องมีอำนาจมากกว่าไอ้ตัวนี้แน่ ๆ" มันพูดอย่างเยาะ ๆ
"บ๊ะ! ก็นั่นมันคนเสียเมื่อไหร่เล่า" เจ้ากระจงตอบ "นั่นมันเป็นแต่เพียงสิ่งที่กำลังจะเติบโตเป็นคนขึ้นมาต่างหาก ยังอีกหลายปีนัก อีกตั้ง 20 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีก แต่กว่าจะถึงเวลานั้นท่านก็ตายไปไหนๆแล้ว"
ต่อมามีชายชราคนหนึ่งเดินกระย่องกระแย่งมาตามถนนแก่คร่ำเสียเคราขาวโพลนเหมือนหิมะ ถือไม้เท้าไว้ช่วยยันกายมาตลอดทาง "ไอ้นี่กระมังคือคนอย่างที่เจ้าว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันผอมโทรม เพราะอยู่มานมนานหลายปีเต็มที เจ้าจะเล่นโกงข้าอีกละซิ" เสือชักโมโห"ไม่ใช่! ไม่ใช่! นี่ก็ไม่ใช่คน มันเป็นเดนคนต่างหาก เสือดีดีอย่างท่าน คงไม่อยากกินเดนของใครแน่ ๆ หรือว่าอยากลอง" "ฮ้าย! ไม่มีวันเสียละ แต่ข้าก็ไม่อยากคอยอีกต่อไปแล้วนา" "จุ๊! จุ๊! นั่นไง คนจริงๆ มาแล้ว" กระจงบอก เมื่อเห็นนายพรานอ้วนพลุ้ยคนหนึ่งแบกปืนก้าวฉับ ๆ มาตามถนน
"ดูซิรูปร่างอ้วน ๆ อย่างนั้นแหละ เนื้อมากดีพิลึกเทียว แก้มสองข้างก็แดงเรื่อแสดงว่ามีเลือดฝาดไม่ใช่น้อย ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าท่านได้ลิ้มรสคน ๆ นั้นแล้วล่ะก็คงไม่ต้องการกินข้าพเจ้าอีกแน่เทียวหรือว่าไง" "เห็นจะเอาแน่! เจ้ากระจงเอ๋ย เอาแน่! คอยดูข้านะ" ว่าแล้วเสือโคร่งก็กระโจนเข้าใส่พรานผู้นั้น แต่นายพรานกลับไวทายาด เขาส่องไรเฟิลยิงโป้งถูกเสือโคร่งตายคาที่
ดังนั้น เจ้ากระจงดีใจนักหนาที่รอดตัวมาได้แต่ก็เหน็ดเหนื่อยจากการผจญภัยเหลือกำลังจึงกลับไปทะเลสาบเพื่อจะกินน้ำ กำลังกินเพลิน ๆ ฉับพลันก็รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งของมันถูกงับมันกำลังจะอ้าปากร้องโอดโอย นัยน์ตาก็เหลือบเห็นไอ้ตัวที่งับขาของมันเข้า เจ้ากระจงรีบกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้เริ่มใช้ความคิดด่วนจี๋
มันก็คือจระเข้ศัตรูใหญ่อีกตัวหนึ่งของเจ้ากระจง จระเข้ชังน้ำหน้าเจ้ากระจงนัก เพราะมันแสนกลสิ้นดี เจ้ากระจงก็แสนจะเกลียดเจ้าจระเข้ เพราะทำให้มันต้องขวัญหนีดีฝ่อทุกที ที่มันอยากกินน้ำในทะเลสาบ
คราวนี้มันยิ่งเคียดแค้นมากยิ่งกว่าทุกคราว แต่มันก็ซ่อนความรู้สึกไว้ได้ ทำเป็นส่งเสียงหัวเราะพูดออกมาอย่างเย้ย ๆ ว่า " พุทโธ่! พุทถังเอ๋ย! นายจระเข้ผู้น่าสมเพช เมื่อไหร่หนอท่านจะได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างขาของกระจงกับท่อนไม้เสียทีนะ ก็ไอ้ที่ท่านคาบเอาไว้เสียจนแน่นนั่นน่ะมันท่อนไม้เก่า ๆ ธรรมดา ๆ แท้ ๆ ทีเดียว"
แต่จระเข้คุ้นกับเล่ห์เหลี่ยมของเจ้ากระจงเสียแล้ว จึงตอบว่า "อย่ามาหลอกต้มข้าอีกเลย ข้ารู้หรอกน่าว่าข้ากำลังคาบขาของเจ้าอยู่ ข้าไม่มีวันปล่อยหรอก จนกว่าจะกินเจ้าหมดทั้งตัวเสียก่อน"
"แต่ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ" กระจงตอบ " ถ้าท่านคิดว่าข้ากำลังใส่กลอยู่ล่ะก็ดูซิว่า นี่มันอะไร" ว่าแล้วเจ้ากระจงก็ยกขาอีกข้างหนึ่งของมันขึ้นกวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าจระเข้
เท่านั้นเองจระเข้หน้าโง่ก็หลงคำเจ้ากระจง รีบปล่อยขาข้างที่กำลังคาบอยู่มันไล่งับขาอีกข้างหนึ่งที่แกว่งอยู่ไปมา แต่เจ้ากระจงรอโอกาสนี้อยู่แล้ว มันโจนแผล็วออกไปทันที พอแน่ใจว่าจระเข้เอื้อมไม่ถึงแล้ว มันก็หันมาพูดกับจระเข้ว่า
"แกน่ะมันโง่เสียยิ่งกว่าลาอีก แม้แต่ขาของข้ากับท่อนไม้เก่า ๆ ต่างกันอย่างไรแกก็ยังไม่รู้เลย โธ่เอ้ย! แล้วกระจงก็วิ่งหนีลิ่ว ๆ ไป ปล่อยให้จระเข้มุดน้ำทะเลสาบลงไปตามเดิมแค้นเคืองเสียนี้กระไรที่มาแพ้เสียเชิงเชาว์เจ้ากระจงได้
ทันใด กระจงก็มาพบหอยทากเข้าตัวหนึ่ง มันดีใจนักที่ได้พบเพราะมันชอบคุยโม้กับหอยทาก คราวนี้ก็ตั้งใจจะมาโวด้วยอีกมันท้าวิ่งแข่งกับหอยทาก แต่ก็ต้องแปลกใจที่หอยทากรับคำท้าและยิ่งแปลกใจหนักขึ้นไปอีก ที่หอยทากบอกว่าต
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บ่ายวันหนึ่งอากาศร้อนอบอ้าวกระจงเจ้าปัญญาตัวหนึ่งกำลังกินน้ำใสในทะเลสาบกลางป่าอยู่ขณะกำลัง กินน้ำเพลิน เสือโคร่งตัวหนึ่งเดินผ่านมาเมื่อเห็นกระจงเข้า เสือโคร่งก็หยุดแล้วหัวเราะด้วยสำเนียงที่สำแดงความชั่วร้ายคำรามออกมาว่า "โอ้โฮ้! เจ้ากระจงน้อยช่างเป็นอาหารโอชามื้อนี้ของข้าเสียนี่กระไรเร็วเข้า มาให้ข้ากินเสียดี ๆ ข้ายังไม่มีอะไรใส่ท้องมาเลยทั้งวัน" "นี่ท่านไม่มีอะไรจะกินมาทั้งวันทีเดียวรึ" กระจงถามแกล้งทำเป็นเสียใจด้วยกับเสือโคร่ง แต่แท้ที่จริงตัวมันเองกำลังสั่นพั่บ ๆ ด้วยความเสียวสยองเมื่อแลเห็นขากรรไกรอันกว้างใหญ่ และฟันอันแหลมเปี๊ยบขาวราวกับงาช้างของเจ้าเสือตัวร้าย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดที่จะไม่แสดงให้เสือรู้ว่าตนกลัว ยังคงพูดต่อไปว่า"โธ่เอ้ย! คุณเสือนี่น่าสงสารจริง ๆ นะ ข้าพเจ้าอยากให้ท่านได้ลิ้มรสอาหารดีๆ แต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าสัตว์กระจ้อยร่อยอย่างข้าพเจ้านี้จะเป็นอาหารที่ท่านจะกินได้อิ่มให้สมกับที่ทนหิวมาได้หรอก" "แต่ข้ากำลังหิวนะโว้ย" เสือคำรามตวาดลั่น อย่างอดทนไม่ไหว "นึกออกแล้ว" กระจงร้องออกมา ภายในใจก็คิดวางแผน "ไอ้ที่จะทำให้ท่านหายหิว นั่นมันต้องเนื้อคนถึงจะสมอยาก" "คนน่ะมันเป็นยังไง เจ้ากระจง" "นี่ท่านไม่รู้เอาเทียวหรือว่า คนนั้นคืออะไร" กระจงอุทาน ทำเป็นแปลกใจ "เออ ข้าไม่คิดว่าข้ารู้" เสือตอบ ชักจะสนใจอยากรู้ขึ้นมา "ไหนบอกข้าหน่อยซิ เจ้ากระจงว่าคนน่ะคืออะไร" "ก็ได้" กระจงว่า ดีใจที่เจ้าเสือร้ายตกหลุมพรางของตัว "คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง มีขาสองขา แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่มีอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก" "จริงรึ อำนาจมากยิ่งกว่าข้าอีกรึ" เสือถาม ชักจะขัดใจขึ้นมาแล้ว "จริงแน่ แต่ถ้าท่านไวพอ ท่านโดดเข้าตะปบมันไว้ ท่านก็กินมันได้สบาย" "เออดี แต่ถ้าข้าหาคนกินไม่ได้ล่ะ เจ้าก็ต้องเป็นอาหารของข้านา มาต่อรองกันแบบนี้ดีไหมล่ะ" "ตกลง" กระจงร้องตอบอย่างพอใจ "แล้วข้าจะไปหาคนได้ที่ไหนล่ะ พามาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ซี เพราะว่าข้าหิวเต็มทนแล้วนะ ถ้าเจ้าไม่รีบไปหามาข้าจะต้องกินเจ้าเสียเดี๋ยวนี้ล่ะ" "ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน ท่านเสือโคร่งผู้ยิ่งใหญ่" กระจงตอบ "มา ไปด้วยกันที่ริมถนนใหญ่ บางทีเราจะได้เห็นคนผ่านมาสักคนหนึ่ง" แล้วกระจงก็พาเสือโคร่งไปริมถนนใหญ่ ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้คอยเวลาที่คนจะเดินผ่านมา ไม่ช้าก็มีเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินกลับจากโรงเรียน เด็กคนนั้นมัวแต่พะวงอยู่กับการบ้านเสียจนไม่ทันสังเกตว่ามีสัตว์สองตัวกำลังแอบดูตนอยู่ "นี่น่ะหรือคน" เสือโคร่งถาม "โธ่เอ๋ย! แน่เสียยิ่งกว่าแน่ ข้าต้องมีอำนาจมากกว่าไอ้ตัวนี้แน่ ๆ" มันพูดอย่างเยาะ ๆ "บ๊ะ! ก็นั่นมันคนเสียเมื่อไหร่เล่า" เจ้ากระจงตอบ "นั่นมันเป็นแต่เพียงสิ่งที่กำลังจะเติบโตเป็นคนขึ้นมาต่างหาก ยังอีกหลายปีนัก อีกตั้ง 20 ปีหรืออาจจะมากกว่านั้นอีก แต่กว่าจะถึงเวลานั้นท่านก็ตายไปไหนๆแล้ว" ต่อมามีชายชราคนหนึ่งเดินกระย่องกระแย่งมาตามถนนแก่คร่ำเสียเคราขาวโพลนเหมือนหิมะ ถือไม้เท้าไว้ช่วยยันกายมาตลอดทาง "ไอ้นี่กระมังคือคนอย่างที่เจ้าว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันผอมโทรม เพราะอยู่มานมนานหลายปีเต็มที เจ้าจะเล่นโกงข้าอีกละซิ" เสือชักโมโห"ไม่ใช่! ไม่ใช่! นี่ก็ไม่ใช่คน มันเป็นเดนคนต่างหาก เสือดีดีอย่างท่าน คงไม่อยากกินเดนของใครแน่ ๆ หรือว่าอยากลอง" "ฮ้าย! ไม่มีวันเสียละ แต่ข้าก็ไม่อยากคอยอีกต่อไปแล้วนา" "จุ๊! จุ๊! นั่นไง คนจริงๆ มาแล้ว" กระจงบอก เมื่อเห็นนายพรานอ้วนพลุ้ยคนหนึ่งแบกปืนก้าวฉับ ๆ มาตามถนน "ดูซิรูปร่างอ้วน ๆ อย่างนั้นแหละ เนื้อมากดีพิลึกเทียว แก้มสองข้างก็แดงเรื่อแสดงว่ามีเลือดฝาดไม่ใช่น้อย ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าท่านได้ลิ้มรสคน ๆ นั้นแล้วล่ะก็คงไม่ต้องการกินข้าพเจ้าอีกแน่เทียวหรือว่าไง" "เห็นจะเอาแน่! เจ้ากระจงเอ๋ย เอาแน่! คอยดูข้านะ" ว่าแล้วเสือโคร่งก็กระโจนเข้าใส่พรานผู้นั้น แต่นายพรานกลับไวทายาด เขาส่องไรเฟิลยิงโป้งถูกเสือโคร่งตายคาที่ ดังนั้น เจ้ากระจงดีใจนักหนาที่รอดตัวมาได้แต่ก็เหน็ดเหนื่อยจากการผจญภัยเหลือกำลังจึงกลับไปทะเลสาบเพื่อจะกินน้ำ กำลังกินเพลิน ๆ ฉับพลันก็รู้สึกว่าขาข้างหนึ่งของมันถูกงับมันกำลังจะอ้าปากร้องโอดโอย นัยน์ตาก็เหลือบเห็นไอ้ตัวที่งับขาของมันเข้า เจ้ากระจงรีบกล้ำกลืนความเจ็บปวดเอาไว้เริ่มใช้ความคิดด่วนจี๋ มันก็คือจระเข้ศัตรูใหญ่อีกตัวหนึ่งของเจ้ากระจง จระเข้ชังน้ำหน้าเจ้ากระจงนัก เพราะมันแสนกลสิ้นดี เจ้ากระจงก็แสนจะเกลียดเจ้าจระเข้ เพราะทำให้มันต้องขวัญหนีดีฝ่อทุกที ที่มันอยากกินน้ำในทะเลสาบ คราวนี้มันยิ่งเคียดแค้นมากยิ่งกว่าทุกคราว แต่มันก็ซ่อนความรู้สึกไว้ได้ ทำเป็นส่งเสียงหัวเราะพูดออกมาอย่างเย้ย ๆ ว่า " พุทโธ่! พุทถังเอ๋ย! นายจระเข้ผู้น่าสมเพช เมื่อไหร่หนอท่านจะได้เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างขาของกระจงกับท่อนไม้เสียทีนะ ก็ไอ้ที่ท่านคาบเอาไว้เสียจนแน่นนั่นน่ะมันท่อนไม้เก่า ๆ ธรรมดา ๆ แท้ ๆ ทีเดียว" แต่จระเข้คุ้นกับเล่ห์เหลี่ยมของเจ้ากระจงเสียแล้ว จึงตอบว่า "อย่ามาหลอกต้มข้าอีกเลย ข้ารู้หรอกน่าว่าข้ากำลังคาบขาของเจ้าอยู่ ข้าไม่มีวันปล่อยหรอก จนกว่าจะกินเจ้าหมดทั้งตัวเสียก่อน" "แต่ข้าไม่ได้หลอกท่านนะ" กระจงตอบ " ถ้าท่านคิดว่าข้ากำลังใส่กลอยู่ล่ะก็ดูซิว่า นี่มันอะไร" ว่าแล้วเจ้ากระจงก็ยกขาอีกข้างหนึ่งของมันขึ้นกวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าจระเข้ เท่านั้นเองจระเข้หน้าโง่ก็หลงคำเจ้ากระจง รีบปล่อยขาข้างที่กำลังคาบอยู่มันไล่งับขาอีกข้างหนึ่งที่แกว่งอยู่ไปมา แต่เจ้ากระจงรอโอกาสนี้อยู่แล้ว มันโจนแผล็วออกไปทันที พอแน่ใจว่าจระเข้เอื้อมไม่ถึงแล้ว มันก็หันมาพูดกับจระเข้ว่า "แกน่ะมันโง่เสียยิ่งกว่าลาอีก แม้แต่ขาของข้ากับท่อนไม้เก่า ๆ ต่างกันอย่างไรแกก็ยังไม่รู้เลย โธ่เอ้ย! แล้วกระจงก็วิ่งหนีลิ่ว ๆ ไป ปล่อยให้จระเข้มุดน้ำทะเลสาบลงไปตามเดิมแค้นเคืองเสียนี้กระไรที่มาแพ้เสียเชิงเชาว์เจ้ากระจงได้ ทันใด กระจงก็มาพบหอยทากเข้าตัวหนึ่ง มันดีใจนักที่ได้พบเพราะมันชอบคุยโม้กับหอยทาก คราวนี้ก็ตั้งใจจะมาโวด้วยอีกมันท้าวิ่งแข่งกับหอยทาก แต่ก็ต้องแปลกใจที่หอยทากรับคำท้าและยิ่งแปลกใจหนักขึ้นไปอีก ที่หอยทากบอกว่าต
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
一天下午,天气闷热,一只鹿在吃你的智慧在清澈的湖水ขณะกำลัง享受森林中老虎路过看到一只鹿进入“哇!你真是一个小ระจง晚餐的食物,所以我就乖乖地给我吃。”ข้ายังไม่มีอะไร整天穿腹
“你没吃?”一整天。对不起,老虎,老鼠问道,假装但事实上,它与其他脉冲颤抖的下巴时,看见เสียวสยอง辽阔然而,要尽量不让他们害怕老虎继续说,“哦,我的天啊!你真可怜!我只想让你品尝好吃的食物。但我不认为这是我的小动物,你可以吃的食物适合耐饿了。“
“我饿了。”但不能耐心地对老虎的吼叫声尖叫“
”找到了内心想哭老鼠
”这个计划使你挨饿这是困难的,即使“人肉”锚。

你ระจง”“难道你不知道那是什么了?”从“科尼感叹这么惊讶,我不认为ข้ารู

好奇老虎越来越感兴趣所以告诉我。”“你是什么人ระจง
“好吧,”老鼠说,很高兴你的老虎”.人是动物,但动物两条腿的“大世界
“真的比我更强大?”老虎问。“有点冒犯,但如果你真的有足够的灵敏度ท่านโดด扑进你吃它舒适”“好的,但如果我吃不到呢?你一定是我的食物。
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: