ถ้าถามว่าอะไรคือเป้าหมายในอนาคตของดิฉันเหรอ? เป้าหมายของดิฉัน ณ ตอนนี้ คือ มัธยมศึกษาตอนปลายเรียนเตรียมอุดมศึกษาระหว่างเรียนม.ปลายสอบชิงทุนไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศหรือเรียนจนจบเป็นแพทย์ที่ต่างประเทศ,แต่ถ้ากลับไทยแล้วสอบเทียบเท่าเข้ามหาลัยแต่ถ้าไม่สอบพอจบม.6สอบเข้า แพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ต่อปริญญาโท-เอกที่อังกฤษ,อเมริกา,สวิตเซอร์แลนด์. การเป็นแพทย์ถือว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงแต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวและตนเอง,ต้องมีความรับผิดชอบสูง.ดิฉันอยากเป็นแพทย์เพราะว่าอยากช่วยชีวิตมนุษย์และไม่ชอบการสูญเสีย.เมื่อก่อนยายดิฉันได้เสียชีวิตตอนป.6เสียใจมากเกือบทำชีวิตพังไปครั้งนึงแต่ด้วยแรงพยายามนึกถึงหน้าแม่,ยายจึงกลับมาตั้งใจเรียนแล้วสอบเข้าม.1จนได้ตอนนี้อยู่ม.3แล้วและตั้งใจเรียนเพื่อจะมาเป็นแพทย์อย่างที่ตั้งใจไว้.มีทั้งความท้อ,อึดอัด,เครียดและการโดนดูถูกมากมาย,แต่แม่ก็จะพูดเสมอว่าท้อได้แต่อย่าถอยเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆนะลูก.ดิฉันเห็นแม่ที่เลี้ยงดิฉันมาทั้งเหนื่อยทั้งอดทนเพื่อส่งเราเรียนเพื่อให้เราสบายและเลี้ยงจนมาถึงทุกวันนี้.เคยคิดนะว่าจะสบายวันนี้หรือลำบากวันนี้สบายในวันข้างหน้า.ฉันขอเลือกลำบากวันนี้แต่สบายในวันข้างหน้าดีกว่า.จงไล่ตามความฝันแต่อยู่บนโลกแห่งความจริง.เมื่อเราพยายามจนถึงประสบความสำเร็จในชีวิตเราก็จะมองย้อนกลับมาถึงจุดนี้.ส่วนวิธีการศึกษาในต่างประเทศช่วยให้ปะสบความสำเร็จในชีวิตอย่างไรนั้น.จากความคิดของดิฉันคิดว่าถ้าได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศจริงอย่างแรกก็ได้ภาที่2แล้วยังมีความมั่นใจมากขึ้น,เป็นตัวของตัวเองใช้ชีวิตเป็น,ใช้เงินเป็น,เอาตัวรอดได้.ความสำเร็จก็ก้าวไปอีกขั้นแล้วถ้าเรียนที่ต่างประเทศต้องปรับตัวเข้ากับทุกอย่างและอย่าลืมวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมต่างชาติ,เป็นมิตรกับทุกคนรักโฮสต์ให้มากๆเหมือนครอบครัวตัวเองดูแลตัวเองให้ดี,ตีกรอบให้เป็นระเบียบ,ไม่อึดอัดจนเกินไป,มีความรับผิดชอบ,ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้จบ,ทำอนาคตให้ดี,ทำชีวิตให้มีวามสุขที่สุด.เพราะชีวิตคนเรานั้นเกิดมาแค่ครั้งเดียวไม่รู้จะเกิดมาอีกเมื่อไหร่ทำตามใจตัวเอง,เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนอื่นหรือสังคมและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง.
คนเราทุกคนต่างมีความฝันและความหวังของตัวเองการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความหวังนั้นไม่แตกต่างอะไรจากการอยู่โดยปราศจากชีวิต.เมื่อเราเป็นเด็กมักมีความฝันเพื่อจะเป็นอะไร.เมื่อเราโตขึ้นความฝันของเรามักจะเปลี่ยนไปเสมอเมื่อเวลาผ่านไป.ตอนเด็กๆฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นแพทย์,มีเงินเยอะๆ,สามารถพูดได้หลายภาษาทำให้แม่หรือครอบครัวสบายและมีความสุขที่สุด
เป้าหมายและวิธีการศึกษาอย่างไรให้สำเร็จนั้นก็เหมือนความฝันและความหวัง.ถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีก็ทำไป,ทำด้วยความเต็มใจและดิฉันต้องทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงจนประสบความสำเร็จในชีวิต.ดิฉันขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านเรียงความของดิฉันหวังว่าเรียงความที่เรียบเรียงขึ้นมานั้นจะเป็นประโยชน์ที่ดีและเป็นแรงจูงใจสำหรับคนที่มาอ่านให้ผลักดันชีวิตไปในทางที่ดี.
ถ้าถามว่าอะไรคือเป้าหมายในอนาคตของดิฉันเหรอ? เป้าหมายของดิฉัน ณ ตอนนี้ คือ มัธยมศึกษาตอนปลายเรียนเตรียมอุดมศึกษาระหว่างเรียนม.ปลายสอบชิงทุนไปแลกเปลี่ยนต่างประเทศหรือเรียนจนจบเป็นแพทย์ที่ต่างประเทศ,แต่ถ้ากลับไทยแล้วสอบเทียบเท่าเข้ามหาลัยแต่ถ้าไม่สอบพอจบม.6สอบเข้า แพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,ต่อปริญญาโท-เอกที่อังกฤษ,อเมริกา,สวิตเซอร์แลนด์. การเป็นแพทย์ถือว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงแต่ไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวและตนเอง,ต้องมีความรับผิดชอบสูง.ดิฉันอยากเป็นแพทย์เพราะว่าอยากช่วยชีวิตมนุษย์และไม่ชอบการสูญเสีย.เมื่อก่อนยายดิฉันได้เสียชีวิตตอนป.6เสียใจมากเกือบทำชีวิตพังไปครั้งนึงแต่ด้วยแรงพยายามนึกถึงหน้าแม่,ยายจึงกลับมาตั้งใจเรียนแล้วสอบเข้าม.1จนได้ตอนนี้อยู่ม.3แล้วและตั้งใจเรียนเพื่อจะมาเป็นแพทย์อย่างที่ตั้งใจไว้.มีทั้งความท้อ,อึดอัด,เครียดและการโดนดูถูกมากมาย,แต่แม่ก็จะพูดเสมอว่าท้อได้แต่อย่าถอยเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆนะลูก.ดิฉันเห็นแม่ที่เลี้ยงดิฉันมาทั้งเหนื่อยทั้งอดทนเพื่อส่งเราเรียนเพื่อให้เราสบายและเลี้ยงจนมาถึงทุกวันนี้.เคยคิดนะว่าจะสบายวันนี้หรือลำบากวันนี้สบายในวันข้างหน้า.ฉันขอเลือกลำบากวันนี้แต่สบายในวันข้างหน้าดีกว่า.จงไล่ตามความฝันแต่อยู่บนโลกแห่งความจริง.เมื่อเราพยายามจนถึงประสบความสำเร็จในชีวิตเราก็จะมองย้อนกลับมาถึงจุดนี้.ส่วนวิธีการศึกษาในต่างประเทศช่วยให้ปะสบความสำเร็จในชีวิตอย่างไรนั้น.จากความคิดของดิฉันคิดว่าถ้าได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศจริงอย่างแรกก็ได้ภาที่2แล้วยังมีความมั่นใจมากขึ้น,เป็นตัวของตัวเองใช้ชีวิตเป็น,ใช้เงินเป็น,เอาตัวรอดได้.ความสำเร็จก็ก้าวไปอีกขั้นแล้วถ้าเรียนที่ต่างประเทศต้องปรับตัวเข้ากับทุกอย่างและอย่าลืมวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมต่างชาติ,เป็นมิตรกับทุกคนรักโฮสต์ให้มากๆเหมือนครอบครัวตัวเองดูแลตัวเองให้ดี,ตีกรอบให้เป็นระเบียบ,ไม่อึดอัดจนเกินไป,มีความรับผิดชอบ,ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้จบ,ทำอนาคตให้ดี,ทำชีวิตให้มีวามสุขที่สุด.เพราะชีวิตคนเรานั้นเกิดมาแค่ครั้งเดียวไม่รู้จะเกิดมาอีกเมื่อไหร่ทำตามใจตัวเอง,เป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนอื่นหรือสังคมและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง. คนเราทุกคนต่างมีความฝันและความหวังของตัวเองการมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความหวังนั้นไม่แตกต่างอะไรจากการอยู่โดยปราศจากชีวิต.เมื่อเราเป็นเด็กมักมีความฝันเพื่อจะเป็นอะไร.เมื่อเราโตขึ้นความฝันของเรามักจะเปลี่ยนไปเสมอเมื่อเวลาผ่านไป.ตอนเด็กๆฝันว่าโตขึ้นอยากเป็นแพทย์,มีเงินเยอะๆ,สามารถพูดได้หลายภาษาทำให้แม่หรือครอบครัวสบายและมีความสุขที่สุด เป้าหมายและวิธีการศึกษาอย่างไรให้สำเร็จนั้นก็เหมือนความฝันและความหวัง.ถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีก็ทำไป,ทำด้วยความเต็มใจและดิฉันต้องทำให้ความฝันนั้นเป็นจริงจนประสบความสำเร็จในชีวิต.ดิฉันขอบคุณสำหรับการเข้ามาอ่านเรียงความของดิฉันหวังว่าเรียงความที่เรียบเรียงขึ้นมานั้นจะเป็นประโยชน์ที่ดีและเป็นแรงจูงใจสำหรับคนที่มาอ่านให้ผลักดันชีวิตไปในทางที่ดี.
การแปล กรุณารอสักครู่..
