อาหารตะวันตก
อาหารตามมื้อสากล หมายถึง อาหารมื้อทั่ว ๆ ไปที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันโดยเฉพาะชนชาติฝรั่งฝั่งตะวันตก อาหารตามแบบฝรั่งจะแบ่งออกได้เป็นมื้อหลัก ๆ ทั้งหมด 6 มื้อด้วยกัน คือ
1. มื้อเช้า
2. มื้อว่างเช้า
3. มื้อกลางวัน
4. มื้อว่างบ่าย
5. มื้อเย็น
6. มื้อค่ำ
อาหารมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้าในแบบยุโรปจะเป็นอาหารแบบเบา ๆ ไม่นิยมรับประทานอาหารประเภทไข่หรือเนื้อสัตว์ในมื้อนี้ อาหารที่ตั้งโต๊ะได้แก่ ขนมปัง เนย แยม น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาในการเริ่มรับประทานก็คือเวลา 07.00 - 09.00 น.
อาหารเช้าแบบอเมริกัน (ABF) หรือแบบอังกฤษ
(American or English breakfast ) ซึ่งคนอเมริกันและคนอังกฤษนิยมรับประทาน อาหารมื้อนี้จะเป็นอาหารมื้อที่หนักมากเหมือนกัน คือ จะรับประทานอาหารประเภทไข่และเนื้อสัตว์เป็นหลัก เช่น ขนมปังปิ้ง ไข่ลวก ไส้กรอก แฮม น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาที่เริ่มรับประทานก็คือ06.00-09.00 น.
ประเภทของอาหารมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้ายังแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทด้วยกัน คือ อาหารประเภทไข่ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารประเภทขนมปัง อาหารประเภทธัญพืช อาหารประเภทผัก และสุดท้าย คือ อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้
อาหารมื้อเช้าประเภทไข่ มีดังนี้
• ไข่ลวก (Soft and Hard boiled eggs)
• ไข่คน (Scramble eggs)
• ไข่ทอดฝรั่ง (Omelet)
อาหารมื้อเช้าประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่
• แฮมรมควัน
• ไส้กรอก เบคอน
• ไก่อบ เป็นต้น
อาหารประเภทขนมปัง ได้แก่
• ขนมปังปิ้ง (Toast)
• ขนมปังหวาน (Sweet Roll)
• ครัวซอง (Croissant)
• แพนเค้ก (Pancake)
• วัฟเฟิล (Waffle)
อาหารประเภทธัญพืช (Cereal) ได้แก่
• คอนเฟ็ลค รสชาติต่าง ๆ เช่น รสข้าวโพด, ช็อคโกแลต
• นมสด
• ข้าวโอ๊ด
• ธัญพืชสำเร็จรูป
อาหารประเภทผัก
• มะเขือเทศ, แตงกวา, หอมใหญ่, มันฝรั่ง
อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้
• กาแฟ
• นมสด
• ชา
• ไมโล
• น้ำผลไม้
อาหารมื้อกลางวัน
สำหรับ....ชาวตะวันตก อาหารมื้อกลางวัน เป็นอาหารสำคัญอีกมื้อหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า เป็นอาหารแบบเบาๆ ง่ายๆ และรวดเร็ว โดยนิยมเสิร์ฟเป็นจานตามลำดับก่อนหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารคาวเพียง 2 จานแล้วต่อด้วยของหวาน ชา หรือ กาแฟสัก 1 ถ้วย เพราะมีเวลารับประทานไม่มากนักคือเพียง 1 ชั่วโมง อาหารมื้อกลางวันของยุโรป อเมริกัน และอังกฤษ ก็จะมีเวลาแตกต่างกันออกไปอีก คือ ถ้าเป็นยุโรปจะเริ่มรับประทานเวลา 12.00 น. แต่ถ้าเป็นอเมริกันหรืออังกฤษ จะเริ่มรับประทานเวลา 13.00 น. - 14.00 น.
ประเภทของอาหารมื้อกลางวัน
ประเภทที่ 1 คือ อาหารจานเดียว (One Course) หมายถึง อาหารที่เป็นอาหารคาวอย่างเดียว เช่น ไก่, เนื้อ, หมู, ปลา และมีอาหารประเภทผัดต่างๆ หรืออาจมีสลัดประกอบด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานอาหารมากหรือมีเวลาน้อย
ประเภทที่ 2 จะเป็นพวก อาหารสองจาน (Two Course)
ซึ่งหมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 2 จาน จานแรกจะเป็นอาหารเบา ๆ เช่น Cocktail ต่างๆ อาหารทะเลหรือซุป ส่วนจานที่ 2 จะเป็นอาหารหนัก และมีสลัดประกอบ
ประเภทที่3 เป็น อาหารสามจาน (Three Course)หมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 3 จาน จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟหรือซุป จานที่ 2 เป็นอาหารทะเล (Entr?e) จานที่ 3 เป็นอาหารหลัก (Main Course) ประเภทเนื้อไก่ หมู และผักเป็นส่วนประกอบ
อาหารมื้อบ่าย
อาหารมื้อบ่าย เป็นวัฒนธรรมการกินของชาวตะวันตกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะชาวอังกฤษเมื่อตกบ่ายจะนิยมดื่มชา อาจจะเพราะอังกฤษเป็นประเทอาหารจานหลัก (Main Course)
เป็นอาหารจานสุดท้ายในประเภทอาหารคาว ประกอบด้วย เนื้อสัตว์เป็นหลัก ตกแต่งด้วยผักสุกหรือผักสด เช่น สเต็กที่ทอดหรือย่าง อาจราดด้วยซอสหรือไม่ก็ได้ นิยมเสิร์ฟกับไวน์ขาวหรือไวน์แดง ศที่หนาวและมีฝนตกแบบที่กรมอุตุนิยมวิทยาบ้านเขาไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่นอน ชาวอังกฤษจึงต้องถือร่มออกจากบ้านทุกเช้าและนิยมดื่มชาเพื่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ร่างกาย ประเภทของชาที่ชาวอังกฤษนิยมดื่มกันมีอยู่หลายชนิดล้วนแล้วแต่มีกลิ่นหอมแถมรสชาติก็ดีไม่แพ้ชาของชาวญี่ปุ่นและจีนเลยทีเดียว
ประเภทของอาหารมื้อว่าง
อาหารว่างของชาวตะวันตกมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
1. อาหารว่างเช้า (Brunch) เป็นอาหารมื้อที่อยู่ระหว่างอาหารเช้าและอาหารกลางวัน อาหารว่างเช้าจะเป็นอาหารมื้อที่หนักกว่ามื้อเช้าแต่ไม่มากเท่ามื้อกลางวัน คำว่า Brunch มาจากคำว่า Breakfast กับคำว่า Lunch รวมกัน ส่วนใหญ่จะรับประทานในเวลา 09.30 - 10.00 น. หรืออาจจะเลยไปกว่านั้นแต่ไม่เกิน 11.00 น. ส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันในวันพักผ่อนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า พอสายหน่อยก็อาจจะขับรถไปรับประทานตามโรงแรม มีหลายโรงแรมทีเดียวครับที่เปิดให้บริการ Brunch แต่ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถแนะนำคุณได้เพราะจะเข้าข่ายกลายเป็นการโฆษณาไป
2. อาหารว่างบ่าย (Afternoon Tea) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภท Afternoon Tea หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Coffee Break จริง ๆ แล้วคำเต็ม ๆ ของ Coffee Break คือ Coffee Break Afternoon Tea จะใช้เสิร์ฟในช่วงบ่ายหรือระหว่างพักการประชุมสัมนาต่าง ๆ ซึ่งจะเสิร์ฟเวลาประมาณ 15.00 น. - 17.00 น. อาหารที่นิยมนำมาจัดเป็น Coffee Break นี้มีตั้งแต่อาหารหวาน ขนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ พาย ครัวซอง หรืออาจจะเป็นอาหารคาว หรือจะจัดรวมกันเป็นอาหารคาวและอาหารหวานก็ได้เสิร์ฟคู่ไปกับน้ำผลไม้เย็น ๆ หรือเครื่องดื่มร้อนหวาน เป็นต้น
ประเภท High Tea เป็นอาหารว่างบ่ายอีกประเภทหนึ่งที่มีความแตกต่างจาก Afternoon Tea คือ จะเป็นอาหารที่หนักท้องกว่า เช่น พวกสลัดเนื้อสัตว์ หรือ แซนด์วิช และช่วงเวลาที่รับประทาน High Tea นี้มักจะเป็นช่วงที่ต้องรออะไรสักอย่าง เช่น รองท้องก่อนไปดูหนังฟังเพลง หรือก่อนเวลารับประทานอาหารเย็น
อาหารมื้อเย็น
อาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อที่หนักที่สุดเพราะเต็มไปด้วยอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ มีอาหารหลายอย่างซึ่งทยอยเสิร์ฟ มีการรับประทานเป็นขั้นเป็นตอน และมีเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลล์ เรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานจริง เหตุที่มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟก็เพราะว่ามื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายของวัน เป็นช่วงเวลาการรับประทานแบบสบาย ๆ ไม่มีเวลาจำกัด ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป Dinner มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟเป็นลำดับ
1.อาหารจานแรก (Appetizers)
เป็นอาหารที่ใช้เรียกน้ำย่อย อาจจะมีรสจืด หรือรสจัดก็ได้ ขนาดชิ้นพอคำ เสิร์ฟในปริมาณไม่มากนัก เรียกว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยกันแบบพอหอมปากหอมคอ
2. อาหารประเภทซุป (Soup)
หลังจากอาหารจานแรกผ
อาหารตะวันตกอาหารตามมื้อสากล หมายถึง อาหารมื้อทั่ว ๆ ไปที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันโดยเฉพาะชนชาติฝรั่งฝั่งตะวันตก อาหารตามแบบฝรั่งจะแบ่งออกได้เป็นมื้อหลัก ๆ ทั้งหมด 6 มื้อด้วยกัน คือ1. มื้อเช้า2. มื้อว่างเช้า3. มื้อกลางวัน4. มื้อว่างบ่าย5. มื้อเย็น6. มื้อค่ำ อาหารมื้อเช้า อาหารมื้อเช้าในแบบยุโรปจะเป็นอาหารแบบเบา ๆ ไม่นิยมรับประทานอาหารประเภทไข่หรือเนื้อสัตว์ในมื้อนี้ อาหารที่ตั้งโต๊ะได้แก่ ขนมปัง เนย แยม น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาในการเริ่มรับประทานก็คือเวลา 07.00 - 09.00 น. อาหารเช้าแบบอเมริกัน (ABF) หรือแบบอังกฤษ (American or English breakfast ) ซึ่งคนอเมริกันและคนอังกฤษนิยมรับประทาน อาหารมื้อนี้จะเป็นอาหารมื้อที่หนักมากเหมือนกัน คือ จะรับประทานอาหารประเภทไข่และเนื้อสัตว์เป็นหลัก เช่น ขนมปังปิ้ง ไข่ลวก ไส้กรอก แฮม น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาที่เริ่มรับประทานก็คือ06.00-09.00 น. ประเภทของอาหารมื้อเช้า อาหารมื้อเช้ายังแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทด้วยกัน คือ อาหารประเภทไข่ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารประเภทขนมปัง อาหารประเภทธัญพืช อาหารประเภทผัก และสุดท้าย คือ อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้ อาหารมื้อเช้าประเภทไข่ มีดังนี้• ไข่ลวก (Soft and Hard boiled eggs) • ไข่คน (Scramble eggs) • ไข่ทอดฝรั่ง (Omelet) อาหารมื้อเช้าประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่• แฮมรมควัน • ไส้กรอก เบคอน • ไก่อบ เป็นต้น อาหารประเภทขนมปัง ได้แก่• ขนมปังปิ้ง (Toast) • ขนมปังหวาน (Sweet Roll) • ครัวซอง (Croissant) • แพนเค้ก (Pancake) • วัฟเฟิล (Waffle) อาหารประเภทธัญพืช (Cereal) ได้แก่• คอนเฟ็ลค รสชาติต่าง ๆ เช่น รสข้าวโพด, ช็อคโกแลต • นมสด • ข้าวโอ๊ด • ธัญพืชสำเร็จรูป อาหารประเภทผัก• มะเขือเทศ, แตงกวา, หอมใหญ่, มันฝรั่ง อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้ • กาแฟ • นมสด • ชา • ไมโล • น้ำผลไม้ อาหารมื้อกลางวัน สำหรับ....ชาวตะวันตก อาหารมื้อกลางวัน เป็นอาหารสำคัญอีกมื้อหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า เป็นอาหารแบบเบาๆ ง่ายๆ และรวดเร็ว โดยนิยมเสิร์ฟเป็นจานตามลำดับก่อนหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารคาวเพียง 2 จานแล้วต่อด้วยของหวาน ชา หรือ กาแฟสัก 1 ถ้วย เพราะมีเวลารับประทานไม่มากนักคือเพียง 1 ชั่วโมง อาหารมื้อกลางวันของยุโรป อเมริกัน และอังกฤษ ก็จะมีเวลาแตกต่างกันออกไปอีก คือ ถ้าเป็นยุโรปจะเริ่มรับประทานเวลา 12.00 น. แต่ถ้าเป็นอเมริกันหรืออังกฤษ จะเริ่มรับประทานเวลา 13.00 น. - 14.00 น. ประเภทของอาหารมื้อกลางวัน ประเภทที่ 1 คือ อาหารจานเดียว (One Course) หมายถึง อาหารที่เป็นอาหารคาวอย่างเดียว เช่น ไก่, เนื้อ, หมู, ปลา และมีอาหารประเภทผัดต่างๆ หรืออาจมีสลัดประกอบด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานอาหารมากหรือมีเวลาน้อย ประเภทที่ 2 จะเป็นพวก อาหารสองจาน (Two Course)ซึ่งหมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 2 จาน จานแรกจะเป็นอาหารเบา ๆ เช่น Cocktail ต่างๆ อาหารทะเลหรือซุป ส่วนจานที่ 2 จะเป็นอาหารหนัก และมีสลัดประกอบประเภทที่3 เป็น อาหารสามจาน (Three Course)หมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 3 จาน จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟหรือซุป จานที่ 2 เป็นอาหารทะเล (Entr?e) จานที่ 3 เป็นอาหารหลัก (Main Course) ประเภทเนื้อไก่ หมู และผักเป็นส่วนประกอบ อาหารมื้อบ่าย อาหารมื้อบ่าย เป็นวัฒนธรรมการกินของชาวตะวันตกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะชาวอังกฤษเมื่อตกบ่ายจะนิยมดื่มชา อาจจะเพราะอังกฤษเป็นประเทอาหารจานหลัก (Main Course)เป็นอาหารจานสุดท้ายในประเภทอาหารคาว ประกอบด้วย เนื้อสัตว์เป็นหลัก ตกแต่งด้วยผักสุกหรือผักสด เช่น สเต็กที่ทอดหรือย่าง อาจราดด้วยซอสหรือไม่ก็ได้ นิยมเสิร์ฟกับไวน์ขาวหรือไวน์แดง ศที่หนาวและมีฝนตกแบบที่กรมอุตุนิยมวิทยาบ้านเขาไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่นอน ชาวอังกฤษจึงต้องถือร่มออกจากบ้านทุกเช้าและนิยมดื่มชาเพื่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ร่างกาย ประเภทของชาที่ชาวอังกฤษนิยมดื่มกันมีอยู่หลายชนิดล้วนแล้วแต่มีกลิ่นหอมแถมรสชาติก็ดีไม่แพ้ชาของชาวญี่ปุ่นและจีนเลยทีเดียว ประเภทของอาหารมื้อว่าง อาหารว่างของชาวตะวันตกมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ 1. อาหารว่างเช้า (Brunch) เป็นอาหารมื้อที่อยู่ระหว่างอาหารเช้าและอาหารกลางวัน อาหารว่างเช้าจะเป็นอาหารมื้อที่หนักกว่ามื้อเช้าแต่ไม่มากเท่ามื้อกลางวัน คำว่า Brunch มาจากคำว่า Breakfast กับคำว่า Lunch รวมกัน ส่วนใหญ่จะรับประทานในเวลา 09.30 - 10.00 น. หรืออาจจะเลยไปกว่านั้นแต่ไม่เกิน 11.00 น. ส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันในวันพักผ่อนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า พอสายหน่อยก็อาจจะขับรถไปรับประทานตามโรงแรม มีหลายโรงแรมทีเดียวครับที่เปิดให้บริการ Brunch แต่ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถแนะนำคุณได้เพราะจะเข้าข่ายกลายเป็นการโฆษณาไป2. อาหารว่างบ่าย (Afternoon Tea) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท Afternoon Tea หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Coffee Break จริง ๆ แล้วคำเต็ม ๆ ของ Coffee Break คือ Coffee Break Afternoon Tea จะใช้เสิร์ฟในช่วงบ่ายหรือระหว่างพักการประชุมสัมนาต่าง ๆ ซึ่งจะเสิร์ฟเวลาประมาณ 15.00 น. - 17.00 น. อาหารที่นิยมนำมาจัดเป็น Coffee Break นี้มีตั้งแต่อาหารหวาน ขนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ พาย ครัวซอง หรืออาจจะเป็นอาหารคาว หรือจะจัดรวมกันเป็นอาหารคาวและอาหารหวานก็ได้เสิร์ฟคู่ไปกับน้ำผลไม้เย็น ๆ หรือเครื่องดื่มร้อนหวาน เป็นต้น ประเภท High Tea เป็นอาหารว่างบ่ายอีกประเภทหนึ่งที่มีความแตกต่างจาก Afternoon Tea คือ จะเป็นอาหารที่หนักท้องกว่า เช่น พวกสลัดเนื้อสัตว์ หรือ แซนด์วิช และช่วงเวลาที่รับประทาน High Tea นี้มักจะเป็นช่วงที่ต้องรออะไรสักอย่าง เช่น รองท้องก่อนไปดูหนังฟังเพลง หรือก่อนเวลารับประทานอาหารเย็น อาหารมื้อเย็น อาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อที่หนักที่สุดเพราะเต็มไปด้วยอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ มีอาหารหลายอย่างซึ่งทยอยเสิร์ฟ มีการรับประทานเป็นขั้นเป็นตอน และมีเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลล์ เรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานจริง เหตุที่มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟก็เพราะว่ามื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายของวัน เป็นช่วงเวลาการรับประทานแบบสบาย ๆ ไม่มีเวลาจำกัด ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป Dinner มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟเป็นลำดับ 1.อาหารจานแรก (Appetizers)เป็นอาหารที่ใช้เรียกน้ำย่อย อาจจะมีรสจืด หรือรสจัดก็ได้ ขนาดชิ้นพอคำ เสิร์ฟในปริมาณไม่มากนัก เรียกว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยกันแบบพอหอมปากหอมคอ2. อาหารประเภทซุป (Soup) หลังจากอาหารจานแรกผ
การแปล กรุณารอสักครู่..
อาหารตะวันตก
อาหารตามมื้อสากล หมายถึง อาหารมื้อทั่ว ๆ ไปที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันโดยเฉพาะชนชาติฝรั่งฝั่งตะวันตก อาหารตามแบบฝรั่งจะแบ่งออกได้เป็นมื้อหลัก ๆ ทั้งหมด 6 มื้อด้วยกัน คือ
1. มื้อเช้า
2. มื้อว่างเช้า
3. มื้อกลางวัน
4. มื้อว่างบ่าย
5. มื้อเย็น
6. มื้อค่ำ
อาหารมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้าในแบบยุโรปจะเป็นอาหารแบบเบา ๆ ไม่นิยมรับประทานอาหารประเภทไข่หรือเนื้อสัตว์ในมื้อนี้ อาหารที่ตั้งโต๊ะได้แก่ ขนมปัง เนย แยม น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาในการเริ่มรับประทานก็คือเวลา 07.00 - 09.00 น.
อาหารเช้าแบบอเมริกัน (ABF) หรือแบบอังกฤษ
(American or English breakfast ) ซึ่งคนอเมริกันและคนอังกฤษนิยมรับประทาน อาหารมื้อนี้จะเป็นอาหารมื้อที่หนักมากเหมือนกัน คือ จะรับประทานอาหารประเภทไข่และเนื้อสัตว์เป็นหลัก เช่น ขนมปังปิ้ง ไข่ลวก ไส้กรอก แฮม น้ำผลไม้ นมสด หรือ กาแฟ เวลาที่เริ่มรับประทานก็คือ06.00-09.00 น.
ประเภทของอาหารมื้อเช้า
อาหารมื้อเช้ายังแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทด้วยกัน คือ อาหารประเภทไข่ อาหารประเภทเนื้อสัตว์ อาหารประเภทขนมปัง อาหารประเภทธัญพืช อาหารประเภทผัก และสุดท้าย คือ อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้
อาหารมื้อเช้าประเภทไข่ มีดังนี้
• ไข่ลวก (Soft and Hard boiled eggs)
• ไข่คน (Scramble eggs)
• ไข่ทอดฝรั่ง (Omelet)
อาหารมื้อเช้าประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่
• แฮมรมควัน
• ไส้กรอก เบคอน
• ไก่อบ เป็นต้น
อาหารประเภทขนมปัง ได้แก่
• ขนมปังปิ้ง (Toast)
• ขนมปังหวาน (Sweet Roll)
• ครัวซอง (Croissant)
• แพนเค้ก (Pancake)
• วัฟเฟิล (Waffle)
อาหารประเภทธัญพืช (Cereal) ได้แก่
• คอนเฟ็ลค รสชาติต่าง ๆ เช่น รสข้าวโพด, ช็อคโกแลต
• นมสด
• ข้าวโอ๊ด
• ธัญพืชสำเร็จรูป
อาหารประเภทผัก
• มะเขือเทศ, แตงกวา, หอมใหญ่, มันฝรั่ง
อาหารประเภทเครื่องดื่มและน้ำผลไม้
• กาแฟ
• นมสด
• ชา
• ไมโล
• น้ำผลไม้
อาหารมื้อกลางวัน
สำหรับ....ชาวตะวันตก อาหารมื้อกลางวัน เป็นอาหารสำคัญอีกมื้อหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า เป็นอาหารแบบเบาๆ ง่ายๆ และรวดเร็ว โดยนิยมเสิร์ฟเป็นจานตามลำดับก่อนหลัง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารคาวเพียง 2 จานแล้วต่อด้วยของหวาน ชา หรือ กาแฟสัก 1 ถ้วย เพราะมีเวลารับประทานไม่มากนักคือเพียง 1 ชั่วโมง อาหารมื้อกลางวันของยุโรป อเมริกัน และอังกฤษ ก็จะมีเวลาแตกต่างกันออกไปอีก คือ ถ้าเป็นยุโรปจะเริ่มรับประทานเวลา 12.00 น. แต่ถ้าเป็นอเมริกันหรืออังกฤษ จะเริ่มรับประทานเวลา 13.00 น. - 14.00 น.
ประเภทของอาหารมื้อกลางวัน
ประเภทที่ 1 คือ อาหารจานเดียว (One Course) หมายถึง อาหารที่เป็นอาหารคาวอย่างเดียว เช่น ไก่, เนื้อ, หมู, ปลา และมีอาหารประเภทผัดต่างๆ หรืออาจมีสลัดประกอบด้วย เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการรับประทานอาหารมากหรือมีเวลาน้อย
ประเภทที่ 2 จะเป็นพวก อาหารสองจาน (Two Course)
ซึ่งหมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 2 จาน จานแรกจะเป็นอาหารเบา ๆ เช่น Cocktail ต่างๆ อาหารทะเลหรือซุป ส่วนจานที่ 2 จะเป็นอาหารหนัก และมีสลัดประกอบ
ประเภทที่3 เป็น อาหารสามจาน (Three Course)หมายถึง อาหารที่เป็นประเภทอาหารคาว 3 จาน จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟหรือซุป จานที่ 2 เป็นอาหารทะเล (Entr?e) จานที่ 3 เป็นอาหารหลัก (Main Course) ประเภทเนื้อไก่ หมู และผักเป็นส่วนประกอบ
อาหารมื้อบ่าย
อาหารมื้อบ่าย เป็นวัฒนธรรมการกินของชาวตะวันตกอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะชาวอังกฤษเมื่อตกบ่ายจะนิยมดื่มชา อาจจะเพราะอังกฤษเป็นประเทอาหารจานหลัก (Main Course)
เป็นอาหารจานสุดท้ายในประเภทอาหารคาว ประกอบด้วย เนื้อสัตว์เป็นหลัก ตกแต่งด้วยผักสุกหรือผักสด เช่น สเต็กที่ทอดหรือย่าง อาจราดด้วยซอสหรือไม่ก็ได้ นิยมเสิร์ฟกับไวน์ขาวหรือไวน์แดง ศที่หนาวและมีฝนตกแบบที่กรมอุตุนิยมวิทยาบ้านเขาไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแน่นอน ชาวอังกฤษจึงต้องถือร่มออกจากบ้านทุกเช้าและนิยมดื่มชาเพื่อให้เกิดความอบอุ่นแก่ร่างกาย ประเภทของชาที่ชาวอังกฤษนิยมดื่มกันมีอยู่หลายชนิดล้วนแล้วแต่มีกลิ่นหอมแถมรสชาติก็ดีไม่แพ้ชาของชาวญี่ปุ่นและจีนเลยทีเดียว
ประเภทของอาหารมื้อว่าง
อาหารว่างของชาวตะวันตกมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ
1. อาหารว่างเช้า (Brunch) เป็นอาหารมื้อที่อยู่ระหว่างอาหารเช้าและอาหารกลางวัน อาหารว่างเช้าจะเป็นอาหารมื้อที่หนักกว่ามื้อเช้าแต่ไม่มากเท่ามื้อกลางวัน คำว่า Brunch มาจากคำว่า Breakfast กับคำว่า Lunch รวมกัน ส่วนใหญ่จะรับประทานในเวลา 09.30 - 10.00 น. หรืออาจจะเลยไปกว่านั้นแต่ไม่เกิน 11.00 น. ส่วนใหญ่นิยมรับประทานกันในวันพักผ่อนหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า พอสายหน่อยก็อาจจะขับรถไปรับประทานตามโรงแรม มีหลายโรงแรมทีเดียวครับที่เปิดให้บริการ Brunch แต่ขอโทษด้วยที่ผมไม่สามารถแนะนำคุณได้เพราะจะเข้าข่ายกลายเป็นการโฆษณาไป
2. อาหารว่างบ่าย (Afternoon Tea) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
ประเภท Afternoon Tea หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Coffee Break จริง ๆ แล้วคำเต็ม ๆ ของ Coffee Break คือ Coffee Break Afternoon Tea จะใช้เสิร์ฟในช่วงบ่ายหรือระหว่างพักการประชุมสัมนาต่าง ๆ ซึ่งจะเสิร์ฟเวลาประมาณ 15.00 น. - 17.00 น. อาหารที่นิยมนำมาจัดเป็น Coffee Break นี้มีตั้งแต่อาหารหวาน ขนมชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคุกกี้ พาย ครัวซอง หรืออาจจะเป็นอาหารคาว หรือจะจัดรวมกันเป็นอาหารคาวและอาหารหวานก็ได้เสิร์ฟคู่ไปกับน้ำผลไม้เย็น ๆ หรือเครื่องดื่มร้อนหวาน เป็นต้น
ประเภท High Tea เป็นอาหารว่างบ่ายอีกประเภทหนึ่งที่มีความแตกต่างจาก Afternoon Tea คือ จะเป็นอาหารที่หนักท้องกว่า เช่น พวกสลัดเนื้อสัตว์ หรือ แซนด์วิช และช่วงเวลาที่รับประทาน High Tea นี้มักจะเป็นช่วงที่ต้องรออะไรสักอย่าง เช่น รองท้องก่อนไปดูหนังฟังเพลง หรือก่อนเวลารับประทานอาหารเย็น
อาหารมื้อเย็น
อาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อที่หนักที่สุดเพราะเต็มไปด้วยอาหารประเภทเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่ มีอาหารหลายอย่างซึ่งทยอยเสิร์ฟ มีการรับประทานเป็นขั้นเป็นตอน และมีเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอลล์ เรียกน้ำย่อยก่อนรับประทานจริง เหตุที่มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟก็เพราะว่ามื้อนี้เป็นมื้อสุดท้ายของวัน เป็นช่วงเวลาการรับประทานแบบสบาย ๆ ไม่มีเวลาจำกัด ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 19.00 น. เป็นต้นไป Dinner มีอาหารหลายอย่างทยอยเสิร์ฟเป็นลำดับ
1.อาหารจานแรก (Appetizers)
เป็นอาหารที่ใช้เรียกน้ำย่อย อาจจะมีรสจืด หรือรสจัดก็ได้ ขนาดชิ้นพอคำ เสิร์ฟในปริมาณไม่มากนัก เรียกว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยกันแบบพอหอมปากหอมคอ
2. อาหารประเภทซุป (Soup)
หลังจากอาหารจานแรกผ
การแปล กรุณารอสักครู่..