The three men are friends who love one day, which is in front of the three men who have been sitting dry talk of oral diarrhea. All three very apparent that their villages live in relatively arid kandan. I would not be enough food and it seems that this will add more dry me. One man sat with two friends, said pho "Tomorrow we will remove anything good friends." The second man died that respond-shift. "I pray to plead wonphra. Ask him to send the fish tattoo. " One man ask that "If God did not send the fish, There was hope we would starve to death. " The second man replied that "He must send a singing fish, XI, his appeal request every night." The third man, in which seat listening to the conversation of the two friends, who are already talking up what for a long time. "I said ... we may endure to persist to the next. There is hope yet for sure someday "starve to death. "How do you tell it to do so, here it is dry it Mr." One man asked the mouth the same time Hao "I've got news coming from the subject fabric merchant city behind him East over there. Cloth merchants say that more students today. Food standards It flourished much trade. I say we move to let your friends there. " The third man said "แต่ทางนั้นเสือดุมากนะ ขืนไปทางนั้นคงมีหวังได้กลายเป็นอาหารของเสือร้ายดอก" ชายคนที่หนึ่งพูดอย่างตกใจ "ไม่เป็นไรหรอก ข้าจะสวดมนต์อ้อนวอนให้พระเจ้าช่วยปกป้องเอง" ชายคนที่สองว่าพร้อมกับทำท่าสวดมนต์ "เถอะนะเพื่อน เราไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า อย่ามัวแต่นอนรอความตายอยู่ที่นี่เลย ถ้าพวกเราไปถึงหมู่บ้านหลังเขานั่นโดยปลอดภัย เราก็จะได้ปักหลักทำมาหากินอยู่ที่นั่น ไม่ต้องมานั่งอดอยากหิวโหยอยู่แบบนี้อีก" ชายคนที่สามกล่าวอย่างมีเหตุผล เมื่อเห็นพ้องต้องกันว่าน่าจะไปลองตั้งรกรากอยู่ที่ใหม่ เพื่อนรักทั้งสามจึงเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น แล้วมุ่งหน้าออกจากหมู่บ้านอันแสนทุรกันดารทันที การเดินทางข้ามเขาตะวันออกเพื่อไปยังหมู่บ้านแห่งนั้นต้องใช้เวลาเดินทางถึง 3 วัน 3 คืน และตลอดทางก็เป็นป่ารกทึบทั้งหมด ดังนั้น ทั้งสามคนจึงต้องคอยระแวดระวังภัยจากสัตว์ร้ายต่างๆ อยู่ตลอดเวลา กระทั่งในวันที่สามเมื่อเวลาโพล้เพล้ สามสหายก็เดินทางมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านซึ่งยังคงเป็นป่าทึบอยู่ แต่ก็ทำให้ทั้งสาม ใจชื้นขึ้นมาได้ ด้วยรู้สึกว่ายิ่งเข้าใกล้หมู่บ้านเท่าไรก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ชายคนที่หนึ่งเห็นอะไรบางอย่างไหวๆ อยู่ในพุ่มไม้ด้านหลัง เขาจึงเขม้นมอง แล้วจู่ๆ ก็ร้องดังลั่นด้วยความตกใจว่า "เสือ ! เสือตัวใหญ่มากเลยเพื่อน เสือตัวใหญ่ขนาดนี้เราคงหนีไม่ทันมันแน่ เราทุกคนต้องถูกมันจับกินจนหมดแน่...โฮ...โฮ!" ชายคนที่หนึ่งร้องไห้อย่างสิ้นหวัง "อย่ายอมแพ้สิเพื่อน ถึงเสือจะตัวใหญ่แต่ถ้าเราหนีทัน เราก็อาจจะรอดนะ" ชายคนที่สามร้องบอกเพื่อน แต่ชายคนที่หนึ่งนั้นดูเหมือนจะเชื่อมั่นเอาจริงๆ ว่าตนไม่มีทางรอด ดังนั้นเขาจึงเอาแต่ยืนร้องไห้อย่างหวาดผวา เสือเห็นดังนั้นจึงจับชายคนที่หนึ่งกินเป็นอาหารก่อนใคร เพราะจับได้ง่ายและไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด ชายคนที่สามเห็นเพื่อนถูกกินเป็นอาหารก็ร้องบอกเพื่อนที่เหลืออีกคนว่า "วิ่งมาทางนี้เร็วๆ สิเพื่อน" "วิ่งไปก็ไม่รอดหรอก ข้าจะสวดมนต์อ้อนวอนขอให้พระเจ้าช่วย พระเจ้าผู้วิเศษจะต้องเห็นใจและมาช่วยคุ้มครองเรา" แล้วชายคนที่สองก็หลับตาแน่นิ่งพร้อมกับทำปากขมุบขมิบสวดมนต์ถึงพระเจ้า
"โธ่เพื่อนเอ๋ย! ถ้าตัวเราไม่มีความพยายามที่จะทำอะไรด้วยตนเองก่อนแล้ว ไหนเลยพระเจ้าจะทรงมีเมตตามาช่วยเรา เราต้องช่วยตนเองให้ถึงที่สุดก่อนสิเพื่อน ไม่ใช่รอคอยแต่ความช่วยเหลือจากคนอื่นแบบนี้ ขืนรอไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาจะหยิบยื่นมาให้เรา"
แต่ชายคนที่สองไม่รับฟังเพื่อน เขาพร่ำแต่สวดมนต์ขอให้พระเจ้าช่วย เสือจึงตรงเข้าขย้ำเขาเป็นเหยื่อรายที่สอง
เมื่อเสียเพื่อนรักทั้งสองคนไปแล้ว ชายคนที่สามก็คิดว่าเขาจะไม่ยอมให้ตนเองตกเป็นอาหารของเสือร้ายดังเพื่อนทั้งสองคนอย่างเด็ดขาด คิดได้ดังนั้นเขาจึงรีบปีนต้นไม้ต้นที่สูงที่สุดอย่างรวดเร็ว เสือเห็นดังนั้นก็เกรงว่าเหยื่อรายที่สามของตนจะหนีรอดไปได้ จึงกระโจนเข้ามากระแทกต้นไม้อย่างแรง เพื่อให้ชายคนที่สามที่กำลังปีนต้นไม้อย่างแข็งขันตกลงมาเป็นอาหารของตนให้ได้
ชายคนที่สามนั้นแท้จริงแล้วปีนต้นไม้ไม่เก่งแต่อย่างใด และแรงกระแทกของเสือก็รุนแรงเหลือเกินจนทำให้เขาเกือบจะตกลงมาอยู่หลายครั้ง แต่เพราะใจที่สู้ และคิดว่าตัวเองต้องรอดชีวิตให้ได้จึงแข็งใจกอดต้นไม้ไว้แน่น
ฝ่ายเสือเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน มันมีกำลังมากเพราะได้กินเนื้อมนุษย์ไปแล้วถึงสองคน และยังอยากได้อีกสักหนนึ่งคนเป็นอาหารตบท้าย ดังนั้นมันจึงออกแรงกระแทกต้นไม้ไม่ยอมหยุด และเมื่อเห็นว่าชายคนที่สามเริ่มสิ้นเรี่ยวแรง มันก็ออกแรงกระแทกต้นไม้หนักขึ้น จนในที่สุดชายคนที่สามก็ร่วงหล่นลงมา
แต่ก่อนที่เสือจะตรงเข้าขย้ำร่างของชายคนที่สาม ก็พลันเกิดเสียงหนึ่งดังสนั่นขึ้นมา เสือตกใจคิดว่าเป็นเสียงปืนของนายพรานที่ออกล่าสัตว์อยู่ในบริเวณนั้นเป็นประจำ มันจึงรีบหนีเข้าไปในป่าทันที ชายคนที่สามเห็นดังนั้นจึงรีบมองหาต้นตอของเสียง พบแต่เพียงลูกมะพร้าวขนาดใหญ่ตกอยู่ใกล้ๆ ตัว เขาจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วเสียงที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเสียงที่เกิดจากลูกมะพร้าวที่ตกลงมา เพราะแรงกระแทกของเสือนั่นเอง
ท้ายที่สุดแล้ว ชายคนที่สามก็รอดชีวิตจากเสือร้ายและเดินทางไปถึงหมู่บ้านอย่างปลอดภัย หลังจากนั้น ชายผู้นี้ก็ได้เริ่มต้นทำมาหากินในหมู่บ้านแห่งนั้นอย่างขยันขันแข็ง จนสุดท้ายเขาก็มีฐานะร่ำรวยและสร้างครอบครัวที่แสนสุขได้
บทสรุปของผู้แต่ง
คนทุกคนเมื่อมีชีวิตแล้วก็ย่อมต้องมีปัญหาในชีวิตเกิดขึ้นมาคู่กัน เพื่อเป็นบททดสอบคุณภาพชีวิตของคนๆ นั้น จงอย่ายอมแพ้กับปัญหาที่อย่างไรเธอก็ต้องเจอ แต่จงสู้และแก้ไขมันให้ได้
การแก้ปัญ
การแปล กรุณารอสักครู่..