First of all, the student who are s

First of all, the student who are study abroad have to pay not only for our school fees but also for our living cost such as for foods, for drinks and pay a large amount of money for air ticket. However, that studying abroad always needs a lot of money and living abroad is expensive. In addition, money values in different countries. For example, when you live in Thailand and you buy a water. You pay to 10-20 THB. But you live in USA or other county in Euro. You must pay to 0.99$ or 35 THB. Therefore, finance may become the biggest problem.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประการแรก นักเรียนที่กำลังศึกษาในต่างประเทศมีค่าจ้างไม่เพียง สำหรับค่าเล่าเรียนของเรา แต่ยัง สำหรับต้นทุนชีวิตของเราเช่นสำหรับอาหาร เครื่องดื่ม และจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับตั๋วเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ที่เรียนต่างประเทศมักจะจำเป็นต้องใช้เงิน และใช้ชีวิตในต่างประเทศมีราคาแพง นอกจากนี้ เงินค่าในต่างประเทศ เช่น เมื่อคุณอาศัยอยู่ในประเทศไทย และคุณซื้อน้ำ คุณจ่ายไป 10-20 บาท แต่คุณอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรือเขตอื่น ๆ ในยูโร คุณต้องจ่าย 0.99$ หรือ 35 บาท ดังนั้น ทางการเงินอาจเป็น ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครั้งแรกของทั้งหมดนักเรียนที่มีศึกษาในต่างประเทศจะต้องจ่ายไม่เพียง แต่สำหรับค่าเล่าเรียนของเรา แต่ยังสำหรับค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัยของเราเช่นอาหารเครื่องดื่มและจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับตั๋วเครื่องบิน แต่ที่ศึกษาในต่างประเทศมักจะต้องการเงินจำนวนมากและการใช้ชีวิตในต่างประเทศที่มีราคาแพง นอกจากนี้ค่าเงินในประเทศที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณอาศัยอยู่ในประเทศไทยและคุณซื้อน้ำ คุณจะต้องจ่าย 10-20 บาท แต่คุณอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือเขตอื่น ๆ ในยูโร คุณจะต้องจ่ายถึง 0.99 $ หรือ 35 บาท ดังนั้นทางการเงินอาจจะกลายเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ครั้งแรกของทั้งหมด นักเรียนที่กำลังศึกษาในต่างประเทศต้องจ่ายค่าเล่าเรียนของเราไม่เพียง แต่ยังสำหรับค่าครองชีพ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม และจ่ายเงินจำนวนมากสำหรับตั๋วเครื่องบิน . แต่ที่เมืองนอกมักจะต้องการมากของเงินและการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ราคาแพง นอกจากนี้ ค่าเงินในประเทศที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณอาศัยอยู่ในประเทศไทย และคุณซื้อน้ำที่คุณจ่ายไป 10-20 บาท แต่คุณอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ในยูโร คุณต้องจ่าย 0.99 $ หรือ 35 บาท ดังนั้น กระทรวงการคลังอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ .