Morocco has capitalized on its prox

Morocco has capitalized on its proximity to Europe and relatively low labor costs to build a diverse, open, market-oriented economy. In the 1980s Morocco was a heavily indebted countries before pursuing austerity measures and pro-market reforms, overseen by the IMF. Since taking the throne in 1999, King MOHAMMED VI has presided over a stable economy marked by steady growth, low inflation, and gradually falling unemployment, although a poor harvest and economic difficulties in Europe contributed to an economic slowdown in 2012. Industrial development strategies and infrastructure improvements - most visibly illustrated by a new port and free trade zone near Tangier - are improving Morocco's competitiveness. Key sectors of the economy include agriculture, tourism, phosphates, textiles, apparel, and subcomponents. To boost exports, Morocco entered into a bilateral Free Trade Agreement with the United States in 2006 and an Advanced Status agreement with the European Union in 2008. Despite Morocco's economic progress, the country suffers from high unemployment, poverty, and illiteracy, particularly in rural areas. In 2011 and 2012, high prices on fuel - which is subsidized and almost entirely imported - strained the government's budget and widened the country's current account deficit. Key economic challenges for Morocco include fighting corruption and reforming the the education system, the judiciary, and the government's costly subsidy program.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โมร็อกโกยังเน้นความใกล้ชิดกับยุโรปค่อนข้างต่ำและต้นทุนค่าแรงงานในการสร้างความหลากหลายเปิดเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นตลาดของตน ในช่วงปี 1980 โมร็อกโกเป็นประเทศที่เป็นหนี้หนักก่อนที่จะใฝ่หามาตรการความเข้มงวดและการปฏิรูปโปรตลาดดูแลโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ตั้งแต่สละราชบัลลังก์ในปี 1999 กษัตริย์โมฮัมเหม็ vi ได้เป็นประธานในการเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพการทำเครื่องหมายโดยการเจริญเติบโตคงที่อัตราเงินเฟ้อต่ำและค่อยๆลดลงการว่างงานแม้ว่าการเก็บเกี่ยวที่ยากจนและปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปมีส่วนทำให้การชะลอตัวของเศรษฐกิจในปี 2012 กลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - ตัวอย่างเห็นได้ชัดที่สุดโดยพอร์ตใหม่และเขตการค้าเสรีอยู่ใกล้แทนเจียร์ - มีการปรับปรุงการแข่งขันของโมร็อกโก สำคัญของภาคเศรษฐกิจการเกษตรรวมถึงการท่องเที่ยวฟอสเฟตสิ่งทอเครื่องแต่งกายและส่วนประกอบย่อย เพื่อเพิ่มการส่งออก, โมร็อกโกได้ลงนามในข้อตกลงการค้าทวิภาคีฟรีกับสหรัฐอเมริกาในปี 2006 และข้อตกลงสถานะขั้นสูงที่มีสหภาพยุโรปในปี 2008 แม้จะมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของโมร็อกโกประเทศที่ทนทุกข์ทรมานจากการว่างงานสูงและความยากจนและการไม่รู้หนังสือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท ในปี 2011 และ 2012,ราคาสูงน้ำมันเชื้อเพลิง - ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนและนำเข้าเกือบทั้งหมด - เครียดงบประมาณของรัฐบาลและกว้างขาดดุลของประเทศในปัจจุบัน ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับโมร็อกโกรวมถึงการต่อสู้กับการทุจริตและการปฏิรูประบบการศึกษาที่ผู้พิพากษาและโครงการเงินอุดหนุนของรัฐบาลที่มีราคาแพง.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โมร็อกโกมีบันทึกบนกับยุโรปและค่าแรงค่อนข้างต่ำเพื่อสร้างเศรษฐกิจหลากหลาย เปิด ตลาด ในทศวรรษ 1980 โมร็อกโกเป็นประเทศใครมากก่อนใฝ่หามาตรการความเข้มงวดและปฏิรูป pro-market การรับการดูแลจาก IMF ตั้งแต่การสละราชบัลลังก์ในปี 1999, VI กษัตริย์มุหัมมัดได้ presided มากกว่าเศรษฐกิจมีเสถียรภาพ โดย steady เติบโต อัตราเงินเฟ้อต่ำ การทำเครื่องหมาย และค่อย ๆ ตกงาน แม้ว่าการเก็บเกี่ยวไม่ดีและปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปส่วนการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปี 2012 กลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมและการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน - แสดงสุดระยะ โดยพอร์ตใหม่และเขตการค้าเสรีใกล้ Tangier - พัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของประเทศโมร็อกโก ภาคหลักของเศรษฐกิจรวมเกษตร ท่องเที่ยว ฟอสเฟต สิ่งทอ เสื้อผ้า และส่วนประกอบย่อย เพื่อเพิ่มส่ง โมร็อกโกเข้าสู่ข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกาในปี 2549 และข้อตกลงสถานะขั้นสูงกับสหภาพยุโรปในปี 2008 แม้ มีการดำเนินการทางเศรษฐกิจของประเทศโมร็อกโก ประเทศ suffers จากการว่างงานที่สูง ความยากจน และ illiteracy โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบท ในปี 2554 และ 2555 เชื้อเพลิง -ซึ่งเป็น subsidized และเกือบทั้งหมดนำเข้า - ราคาสูงย้ำงบประมาณของรัฐบาล และ widened ดุลบัญชีปัจจุบันของประเทศ ความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญในประเทศโมร็อกโกรวมถึงต่อต้านการทุจริต และการปฏิรูปการศึกษาระบบ ยุติธรรม และโปรแกรมเงินสมทบค่าใช้จ่ายของรัฐบาล