Thale Noi is the largest waterfowl

Thale Noi is the largest waterfowl reserve in Thailand. It can be reached via Highway No. 4048 from Amphoe Muang to Amphoe Khuan Khanun and to Thale Noi, for a total distance of 32 kilometres. The road is paved asphalt all the way. The reserve is the responsibility of the Royal Forestry Department and covers 450 square kilometres, divided into 422 square kilometres of land (94%) and 28 square kilometres of water (6%), or Thale Noi. The sea is 5 kilometres wide and 6 kilometres long with an average depth of 1.2 metres. The sea is covered with assorted flora such as lotus, bulrush, reed, and grass used for thatching. More than 187 species of waterfowls, migratory and indigenous birds make their home at Thale Noi. Some live here throughout the year and some migrate only in winter from October to March when the population density is at its highest. The low season is June-September which is the nesting period. Species that are prevalent here are those of the heron and stork family such as yellow bittern, great egret, painted stork, red stork; ducks such as lesser whistling duck, cotton pygmy goose, and garganey; grebe; rails such as white-browed crake, white-breasted waterhen, watercock, common moorhen, and Eurasian coot; jacanas such as pheasant-tailed jacana and bronze-winged jacana; cormorants such as great cormorant and little cormorant; black-winged stilt; Brahminy kite; red-wattled lapwing; whiskered tern; common kingfisher; and barn swallow. The best time to study flora and fauna is during October-March when there is an abundance of birds and pink lotus in full bloom cover the reserve. Moreover, tourists can visit villages and see cottage industries like reed mat making.

Thale Noi has been named the first world ramsar site (wetland site) in Thailand. This aims to preserve the sustainable ecology of the area, one that is being developed into one of the countrys most important nature study centres. As such, there is careful control of eco-tourism in Thale Noi in order to minimize impact on the environment.

Tourists can take boats from Thale Noi pier and go on two routes; the first one for tourists with services by the Thale Noi community and the second for academics and nature study by requesting permission and guide from a reserve official. The reserve has comfortable accommodation. For more information, please contact the Royal Forestry Department in Bangkok, tel: [phone] and Thale Noi Non-hunting Area, tel: [phone].

Travel to Thale Noi is easy by boat and car. Access can be made from seaside districts like Ranot, Sathing Phra and Mueang of Songkhla, and Pak Phayun, Khuan Khanun and Mueang of Phatthalung. Visitors by train can alight at Pak Khlong station and continue by car to Thale Noi for 8 kilometres.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทะเลน้อยเป็นสำรองนกน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จะสามารถเข้าถึงได้ผ่านทางทางหลวงหมายเลข 4048 จากเมืองไปยังอำเภอควนขนุนและทะเลน้อยสำหรับรวมระยะทาง 32 กิโลเมตรอำเภอ ถนนเป็นยางมะตอยปูตลอดทาง สำรองเป็นความรับผิดชอบของกรมป่าไม้พระราชและครอบคลุม 450 ตารางกิโลเมตรแบ่งออกเป็น 422 ตารางกิโลเมตรของที่ดิน (94%) และ 28 ตารางกิโลเมตรของน้ำ (6%) หรือทะเลน้อย ทะเลคือ 5 กิโลเมตรและกว้าง 6 กิโลเมตรยาวกับความลึกเฉลี่ย 1.2 เมตร ทะเลถูกปกคลุมด้วยพืชหลายชนิดเช่นบัวแฝก, กกและหญ้าที่ใช้ในการมุง กว่า 187 สายพันธุ์ของ waterfowls, การอพยพย้ายถิ่นและนกพื้นเมืองทำให้บ้านของพวกเขาที่ทะเลน้อยบางคนอาศัยอยู่ที่นี่ตลอดทั้งปีและบางส่วนย้ายเฉพาะในฤดูหนาวจากตุลาคม-มีนาคมเมื่อความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่สูงสุด โลว์ซีซั่นคือเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การทำรัง สายพันธุ์ที่เป็นที่แพร่หลายที่นี่เป็นที่ของนกกระสานกกระสาและครอบครัวเช่นยางสีเหลืองนกกระยางที่ดีนกกระสาทาสีนกกระสาสีแดงเป็ดเช่นเป็ดผิวปากน้อยแคระฝ้ายห่านและ garganey; เป็ด; รางเช่นสีขาว-browed Crake, waterhen ขาวกระดุม, watercock, ไก่นาทั่วไปและคนโง่เอเชีย; jacanas เช่น Jacana ไก่ฟ้าหางและปีกสีบรอนซ์ Jacana; นกเช่นนกกาน้ำนกกาน้ำเล็กและใหญ่สีดำ ปีกเสา; brahminy ว่าว; กระแตแดง wattled; นกนางนวลเครา; กระเต็นทั่วไปและโรงนากลืนเวลาที่ดีที่สุดในการศึกษาพืชและสัตว์ที่อยู่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมเมื่อมีความอุดมสมบูรณ์ของนกและดอกบัวสีชมพูในปกบานเต็มสำรอง นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านและเห็นกระท่อมอุตสาหกรรมเช่นการทำเสื่อกก.

ทะเลน้อยได้รับเสนอชื่อเป็นครั้งแรกเว็บไซต์ ramsar โลก (เว็บไซต์ของพื้นที่ชุ่มน้ำ) ในประเทศไทย นี้มีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืนของพื้นที่หนึ่งที่มีการพัฒนาเป็นหนึ่งในประเทศที่สำคัญที่สุดของศูนย์ศึกษาธรรมชาติ เช่นมีการควบคุมอย่างระมัดระวังของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในทะเลน้อยเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นักท่องเที่ยวสามารถใช้เรือจากท่าเรือทะเลน้อยและไปในสองเส้นทาง.หนึ่งในครั้งแรกสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีบริการโดยชุมชนทะเลน้อยและครั้งที่สองสำหรับนักวิชาการและศึกษาธรรมชาติโดยการขออนุญาตและให้คำแนะนำอย่างเป็นทางการจากการสำรอง สำรองมีที่พักที่สะดวกสบาย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายป่าไม้ในพระราช bangkok, โทร: 0 2562 0760 และพื้นที่ที่ไม่ล่าสัตว์ทะเลน้อยโทร. 0 7468 5230

การเดินทางไปยังทะเลน้อยเป็นเรื่องง่ายโดยทางเรือและรถ การเข้าถึงสามารถทำจากหัวเมืองชายทะเลเช่นระโนดสทิงพระและเมืองของจังหวัดสงขลาและปากพะยูน, ควนขนุนและเมืองพัทลุง ผู้เข้าชมโดยรถไฟสามารถลงที่สถานีปากคลองและดำเนินการต่อโดยรถยนต์ไปยังทะเลน้อยเป็นเวลา 8 กิโลเมตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทะเลน้อยเป็นสำรอง waterfowl ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มันสามารถเข้าถึงผ่านทางหลวงหมายเลข 4048 จากอำเภอเมือง ไปอำเภอควนขนุน และทะเล น้อย สำหรับระยะทางรวม 32 กิโลเมตร ปูถนนยางมะตอยทุกทาง สำรองมีความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ และครอบคลุม 450 ตารางกิโลเมตร 422 กิโลเมตรพื้นที่ที่ดิน (94%) และ 28 ตารางกิโลเมตรของน้ำ (6%), หรือทะเลน้อย ทะเล 5 กิโลเมตรกว้าง ถึง 6 กิโลเมตรยาว ด้วยมีความลึกเฉลี่ย 1.2 เมตรได้ ทะเลปกคลุม ด้วยพืชสารพันเช่นโลตัส bulrush ลิ้น และใช้สำหรับมุงหญ้า พันธุ์ waterfowls กว่า 187 นกอพยพ และพื้นให้บ้านทะเลน้อย บางสดที่นี่ตลอดทั้งปีและบางส่วนโยกย้ายเฉพาะในฤดูหนาวจากเดือนตุลาคมถึงมีนาคมเมื่อความหนาแน่นของประชากรอยู่ที่ความสูง ช่วงโลว์ซีซั่นเดือนมิถุนายนกันยายนซึ่งเป็นระยะที่ซ้อนอยู่ ชนิดที่แพร่หลายที่นี่คือครอบครัวเฮรอนและนกกระสาเช่นนกสีเหลืองยาง นกยางโทนใหญ่ นกกระสา นกกระสาแดง สี เป็ดคับแค เช่นเป็ดแดง garganey และ นกเป็ดผี รางขาวนกอัญชันคิ้ว waterhen นกสีขาว watercock, moorhen ทั่วไป และนก coot jacanas jacana ไก่ฟ้าสีหางและปีกทอง jacana ตู้เช่นนกกาน้ำและนกกาน้ำเล็ก ปีกสีดำทรงไทย เหยี่ยวแดง สีแดง wattled lapwing เทินหัวโขน นกกระเต็น และสวอลโล่ยุ้งข้าว เวลาดีที่สุดในการศึกษาพันธุ์พืชและสัตว์ป่าอยู่ระหว่างเดือนตุลาคมมีนาคมเมื่อมีความอุดมสมบูรณ์ของนก และบัวสีชมพูบานเต็มครอบคลุมสำรอง นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้าน และดูคอทเทจอุตสาหกรรมเช่นลิ้นลื่นทำได้

ทะเลน้อยได้รับการแต่งตั้งแรกโลก ramsar ไซต์ (ไซต์พื้นที่ชุ่มน้ำ) ในประเทศไทย นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาระบบนิเวศอย่างยั่งยืนของพื้นที่ หนึ่งที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์ศึกษาธรรมชาติสำคัญของ countrys เช่น ไม่ระมัดระวังควบคุมการท่องเที่ยวในทะเลน้อยเพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้

นักท่องเที่ยวสามารถนำเรือจากทะเลน้อยท่าเรือและเดินบนเส้นทางที่สอง หนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวมีบริการชุมชนทะเลน้อยและสองสำหรับนักวิชาการและศึกษาธรรมชาติ โดยขออนุญาตและคำแนะนำจากทางธนาคาร สำรองพักได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่กรมป่าไม้กรุงเทพมหานคร โทร: 0 2562 0760 และ พื้นที่ทะเลน้อยไม่ล่าสัตว์ โทร: 0 7468 5230

ท่องเที่ยวทะเลน้อยเป็นเรื่องง่าย โดยเรือและรถ เข้าถึงได้จากริมทะเลอำเภอระโนด สทิงพระ และเมือง สงขลา และปากพยูน ควนขนุน และเมืองพัทลุง นักท่องเที่ยว โดยรถไฟสามารถลงที่สถานีปากคลอง และต่อ ด้วยรถน้อยทะเล 8 กิโลเมตร