After the terrorist attacks of Sept

After the terrorist attacks of September 11, 2001, the Bush administration declared a worldwide "war on terror," involving open and covert military operations, new security legislation, efforts to block the financing of terrorism, and more. Washington called on other states to join in the fight against terrorism asserting that "either you are with us, or you are with the terrorists." Many governments joined this campaign, often adopting harsh new laws, lifting long-standing legal protections and stepping up domestic policing and intelligence work.



Critics charge that the "war on terrorism" is an ideology of fear and repression that creates enemies and promotes violence rather than mitigating acts of terror and strengthening security. The worldwide campaign has too often become an excuse for governments to repress opposition groups and disregard international law and civil liberties. Governments should address terrorism through international cooperation, using international law and respecting civil liberties and human rights. Governments should also address the root causes of terrorism, notably political alienation due to prejudice, state-sponsored violence and poverty.



This site deals with the idea and practice of the "war on terrorism." Materials critically analyze the "war" and its consequences. The site looks at terrorism's history and root causes and how the concept has been used and abused.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจากการโจมตีผู้ก่อการร้ายที่ 11 กันยายน 2001 บุประกาศทั่วโลก "สงครามการก่อการร้าย เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางทหารที่เปิด และแอบแฝง กฎหมายความปลอดภัยใหม่ พยายามบล็อกก่อการร้าย และอื่น ๆ วอชิงตันเรียกรัฐอื่น ๆ เข้าร่วมในการต่อสู้กับการก่อการร้ายกรรมสิทธิ์ที่ "คุณอยู่กับเรา หรือมีผู้ก่อการร้าย" รัฐบาลจำนวนมากเข้าร่วมแคมเปญนี้ มักใช้กฎหมายรุนแรงใหม่ ยกคุ้มครองทางกฎหมายที่ยาวนาน และก้าวขึ้นมากกว่าการรักษาภายในประเทศและงานข่าวกรองนักวิจารณ์คิดว่า "สงครามกับการก่อการร้าย" มีอุดมการณ์ของความกลัว และทำหน้าที่ปราบปรามที่สร้างศัตรู และส่งเสริมความรุนแรงแทนที่บรรเทาความหวาดกลัวและเพิ่มความปลอดภัย ส่งเสริมการขายทั่วโลกมีเกินไปมักจะเป็น ข้อแก้ตัวของรัฐบาลในการปราบปรามกลุ่มต่อต้าน และไม่สนใจกฎหมายระหว่างประเทศและเสรีภาพ รัฐบาลควรการก่อการร้ายผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ การใช้กฎหมายระหว่างประเทศ และเคารพในสิทธิเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน รัฐบาลยังควรที่อยู่รากสาเหตุของการก่อการร้าย ยวดเมืองฝังอคติ รัฐสนับสนุนความรุนแรง และความยากจนเว็บไซต์นี้เกี่ยวข้องกับความคิดและปฏิบัติของ "สงครามกับการก่อการร้าย" นอกจากนี้วัสดุเหลือวิเคราะห์ "สงคราม" และผลที่เกิดขึ้น เว็บไซต์ที่มีลักษณะการก่อการร้ายของประวัติศาสตร์และรากสาเหตุและวิธีแนวคิดที่ถูกใช้ และถูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 รัฐบาลบุชประกาศสงครามทั่วโลก " การก่อการร้าย " ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดและการดำเนินงานทางทหารแอบแฝง กฎหมายความมั่นคงใหม่ ความพยายามเพื่อป้องกันการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย และเพิ่มเติม วอชิงตันเรียกร้องให้รัฐอื่น ๆที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้กับการก่อการร้าย ยืนยันว่า " ไม่ว่าจะเป็นกับเรา หรือคุณเป็นผู้ก่อการร้าย" รัฐบาลหลายคนเข้าร่วมแคมเปญนี้ มักจะใช้กฎหมายใหม่ที่รุนแรง การคุ้มครองทางกฎหมายที่ยืนยาวและก้าวขึ้นภายในประเทศ ประกอบและงานข่าวกรอง .



วิจารณ์เรียกว่า " สงครามต่อต้านการก่อการร้าย " เป็นอุดมการณ์ของความกลัวและการปราบปรามที่สร้างศัตรูและส่งเสริมความรุนแรงมากกว่าบรรเทาการก่อการร้ายและการเสริมสร้างความปลอดภัยแคมเปญทั่วโลกมีมากเกินไปมักจะเป็นข้ออ้างสำหรับรัฐบาลที่จะปราบปรามกลุ่มฝ่ายค้าน และไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศและเสรีภาพ . รัฐบาลควรแก้ไขการก่อการร้ายผ่านความร่วมมือระหว่างประเทศ การใช้กฎหมาย และเคารพในสิทธิเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน รัฐบาลควรที่อยู่รากสาเหตุของการก่อการร้ายโดยเฉพาะความอคติทางการเมือง รัฐสนับสนุนความรุนแรงและความยากจน .



เว็บไซต์นี้เกี่ยวข้องกับความคิดและการปฏิบัติของ " สงครามต่อต้านการก่อการร้าย " วัสดุ ประมวล วิเคราะห์ " สงคราม " และผลของ เว็บไซต์ดูประวัติศาสตร์การก่อการร้ายและสาเหตุ และวิธีการแนวคิดได้ถูกใช้และถูกทารุณกรรม .