แบบจำลองเอกภพของกรีก (Greek cosmology) การอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ การแปล - แบบจำลองเอกภพของกรีก (Greek cosmology) การอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ อังกฤษ วิธีการพูด

แบบจำลองเอกภพของกรีก (Greek cosmolo

แบบจำลองเอกภพของกรีก (Greek cosmology)

การอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ้าของชนชาวกรีกโบราณนั้นได้พัฒนาโดยอาศัยข้อมูลและความรู้ทางดาราศาสตร์ของชาวสุเมอเรียนและชาวบาบิโลน แต่ชาวกรีกได้มีการพัฒนาคำอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ้าโดยอาศัยคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือ โดยชาวกรีกได้ประยุกต์ความรู้ทางคณิตศาตร์ในเรื่องของจำนวนและเรขาคณิตในการพัฒนาแบบจำลองเอกภพของของชาวกรีก และได้เป็นผู้ประดิษฐ์คำว่า “cosmology” ซึ่งมีความหมายว่า “เอกภพวิทยา” โดยที่คำว่า “cosmos” นั้นมาจากภาษากรีกคำว่า “kosmos” ชึ่งแปลว่าแนวความคิดของความสมมาตรและความกลมกลืน (symmetry and harmony) ชาวกรีกได้พัฒนาความรู้ที่สำคัญมากของวิชาดาราศาสตร์ คือ พวกเขาได้ค้นพบว่าโลกมีลักษณะเป็นทรงกลมโดยนักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์ ชื่อ อริสโตติ้ล (Aristotle, 384 – 325 ปีก่อนคริตศักราช) อริสโตเติ้ลได้ทำการสังเกตการดาวฤกษ์ที่เคลื่อนที่รอบดาวเหนือและพบว่าดาวฤกษ์เหล่านั้นบางดวงสามารถสังเกตเห็นได้ที่อียิปต์แต่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ที่กรีก ดังนั้นจึงมีทางเดียวที่จะอธิบายปรากฏการณ์นี้คือโลกจะต้องมีลักษณะเป็นทรงกลมเท่านั้น และ อริสตาคัส จากซามอส (Aristarchus of Samos, 310 – 230 ปีก่อนคริตศักราช) ได้เป็นบุคคนแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ระบุว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยมีดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางและโลกจะโคจรครบหนึ่งรอบในเวลา 1 ปี ดังนั้นแบบจำลองเอกภพของกรีกจึงเป็นแบบจำลองแรกที่กล่าวว่าเอกภพมีลักษณะที่อธิบายได้ทางเรขาคณิต

แบบจำลองเอกภพของพโตเลมี (Ptoleme’s model of the Universe)

ในอดีตได้มีนักดาราศาสตร์ชื่อ ฮิปปาราคัส (Hipparchus of Nicaea) ได้ทำการสังเกตดาวฤกษ์ต่างๆในท้องฟ้าและจัดทำบัญชีรายชื่อของดาวฤกษ์ต่างๆในท้องฟ้าและเขายังได้จำแนกความสว่างของดาวฤกษ์แต่ละดวงขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย ต่อมาพโตเลมี (Ptolemy, A.D. 127 - 151) นักดาราศาสตร์ชาวกรีกก็ได้ใช้ข้อมูลนี้เพื่ออธิบายถึงความสัมพันธ์ทางรูปแบบเรขาคณิตทรงกลม ของวัตถุต่างๆในท้องฟ้า พโตเลมีได้อธิบายว่าดาวฤกษ์ต่างๆที่อยู่ในท้องฟ้านั้นจะมีตำแหน่งประจำอยู่กับที่ (fixed star) แต่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆจะมีการเคลื่อนที่ไปในท้องฟ้า โดยพโตเลมีได้อธิบายว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางดาวฤกษ์ต่างๆนั้นจะเคลื่อนที่ไปรอบๆโลก ส่วนดวงอ่ทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆก็จะโคจรรอบโลก โดยมีลักษณะวงโคจรเป็นรูปวงกลมเล็กๆที่เรียกว่าวงโคจร “epicycle” ซึ่งเคลื่อนที่รอบจุดศูนย์กลางอันหนึ่งที่เรียกว่า “deferent” และจุด “deferent” นี้จะโคจรรอบโลกเป็นรูปวงกลม ดังนั้นแบบจำลองเอกภพของพโตเลมีก็ตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางของเอกภพโดยใช้หลักการทางเรขาคณิตมาอธิบายถึงผลของการสังเกตที่พบได้จริงในท้องฟ้า
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
A model universe, Greek (Greek cosmology). การอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ้าของชนชาวกรีกโบราณนั้นได้พัฒนาโดยอาศัยข้อมูลและความรู้ทางดาราศาสตร์ของชาวสุเมอเรียนและชาวบาบิโลน แต่ชาวกรีกได้มีการพัฒนาคำอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆในท้องฟ้าโดยอาศัยคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือ โดยชาวกรีกได้ประยุกต์ความรู้ทางคณิตศาตร์ในเรื่องของจำนวนและเรขาคณิตในการพัฒนาแบบจำลองเอกภพของของชาวกรีก และได้เป็นผู้ประดิษฐ์คำว่า “cosmology” ซึ่งมีความหมายว่า “เอกภพวิทยา” โดยที่คำว่า “cosmos” นั้นมาจากภาษากรีกคำว่า “kosmos” ชึ่งแปลว่าแนวความคิดของความสมมาตรและความกลมกลืน (symmetry and harmony) ชาวกรีกได้พัฒนาความรู้ที่สำคัญมากของวิชาดาราศาสตร์ คือ พวกเขาได้ค้นพบว่าโลกมีลักษณะเป็นทรงกลมโดยนักคณิตศาสตร์และนักปราชญ์ ชื่อ อริสโตติ้ล (Aristotle, 384 – 325 ปีก่อนคริตศักราช) อริสโตเติ้ลได้ทำการสังเกตการดาวฤกษ์ที่เคลื่อนที่รอบดาวเหนือและพบว่าดาวฤกษ์เหล่านั้นบางดวงสามารถสังเกตเห็นได้ที่อียิปต์แต่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ที่กรีก ดังนั้นจึงมีทางเดียวที่จะอธิบายปรากฏการณ์นี้คือโลกจะต้องมีลักษณะเป็นทรงกลมเท่านั้น และ อริสตาคัส จากซามอส (Aristarchus of Samos, 310 – 230 ปีก่อนคริตศักราช) ได้เป็นบุคคนแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่ระบุว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ โดยมีดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางและโลกจะโคจรครบหนึ่งรอบในเวลา 1 ปี ดังนั้นแบบจำลองเอกภพของกรีกจึงเป็นแบบจำลองแรกที่กล่าวว่าเอกภพมีลักษณะที่อธิบายได้ทางเรขาคณิตA replica of the sacred Lake phato protagonist (Ptoleme's model of the Universe). ในอดีตได้มีนักดาราศาสตร์ชื่อ ฮิปปาราคัส (Hipparchus of Nicaea) ได้ทำการสังเกตดาวฤกษ์ต่างๆในท้องฟ้าและจัดทำบัญชีรายชื่อของดาวฤกษ์ต่างๆในท้องฟ้าและเขายังได้จำแนกความสว่างของดาวฤกษ์แต่ละดวงขึ้นเป็นครั้งแรกด้วย ต่อมาพโตเลมี (Ptolemy, A.D. 127 - 151) นักดาราศาสตร์ชาวกรีกก็ได้ใช้ข้อมูลนี้เพื่ออธิบายถึงความสัมพันธ์ทางรูปแบบเรขาคณิตทรงกลม ของวัตถุต่างๆในท้องฟ้า พโตเลมีได้อธิบายว่าดาวฤกษ์ต่างๆที่อยู่ในท้องฟ้านั้นจะมีตำแหน่งประจำอยู่กับที่ (fixed star) แต่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆจะมีการเคลื่อนที่ไปในท้องฟ้า โดยพโตเลมีได้อธิบายว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางดาวฤกษ์ต่างๆนั้นจะเคลื่อนที่ไปรอบๆโลก ส่วนดวงอ่ทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆก็จะโคจรรอบโลก โดยมีลักษณะวงโคจรเป็นรูปวงกลมเล็กๆที่เรียกว่าวงโคจร “epicycle” ซึ่งเคลื่อนที่รอบจุดศูนย์กลางอันหนึ่งที่เรียกว่า “deferent” และจุด “deferent” นี้จะโคจรรอบโลกเป็นรูปวงกลม ดังนั้นแบบจำลองเอกภพของพโตเลมีก็ตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่าโลกเป็นจุดศูนย์กลางของเอกภพโดยใช้หลักการทางเรขาคณิตมาอธิบายถึงผลของการสังเกตที่พบได้จริงในท้องฟ้า
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: