According to sensory analysis, pres

According to sensory analysis, presented in Table 6, wheat flour
cookies expressed the lowest scores for sensory attributes such as
shape, upper and bottom surface appearance, rupture and chewiness
which also could be related to unfavourable particle size/starch damage
ratio. Namely, higher fat and water content influenced larger spreadability
and gas retaining properties in wheat flour containing cookies
in comparison to gluten-free cookies. Therefore, all gluten-free cookies
showed significantly higher scores for almost all the tested attributes
except the cross-section structure. Cookie formulations with 20% and
30% of BF (calculated on flourmass) possessed the highest scores for flavour.
Namely, it is well known that rice flour is characterisedwith bland
and neutral taste (Kadan, Bryant, &Miller, 2008). On contrary, polyphenols,
an aromatic compound, are commonly found in buckwheat flour
and they are responsible for giving the pleasant aroma (Luthar, 1992)
and masking the bland and neutral rice flour taste. Therefore, the increase
in the content of BF from 10 to 20% led to increase in scores for
flavour. Further increase of BF to 30% did not have significant effect on
flavour of the obtained cookie. Generally, observing all the evaluated attributes,
cookie formulations prepared with 20% of BF expressed the
most acceptable sensory properties. These findings were opposite to
the research of Baljeet et al. (2010) who investigated wheat flourbased
biscuits with the addition of 10–40% of buckwheat flour. Accordingly,
the increase in the level of buckwheat flour in wheat flour based
cookies led to decrease in sensory scores. These differences could be ascribed
to different physicochemical properties of wheat and rice flours

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามการวิเคราะห์ทางประสาทสัมผัส การนำเสนอในตาราง 6 สาลีคุกกี้แสดงคะแนนต่ำสำหรับคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสเช่นรูปร่าง ลักษณะพื้นผิวบนและล่าง แตก และ chewinessซึ่งยังอาจเกี่ยวข้องกับความเสียหาย/แป้งขนาดอนุภาค unfavourableอัตราส่วน ได้แก่ ไขมันสูงและน้ำผล spreadability ใหญ่และก๊าซธรรมชาติที่รักษาคุณสมบัติในแป้งข้าวสาลีที่ประกอบด้วยคุกกี้โดยตังฟรีคุกกี้ ดังนั้น คุกกี้ทั้งหมดตังฟรีแสดงให้เห็นว่าคะแนนสูงมากสำหรับแอททริบิวต์ทดสอบเกือบทั้งหมดยกเว้นโครงสร้างระหว่างส่วน สูตรคุกกี้กับ 20% และ30% ของเอฟ (คำนวณใน flourmass) ต้องมีคะแนนสูงสุดสำหรับรสชาติคือ เป็นที่รู้จักว่าแป้งข้าว characterisedwith สูงและรสชาติเป็นกลาง (Kadan ไบรอันท์ & มิ ลเลอร์ 2008) ในตรงกันข้าม โพลีหอมการผสม มักพบในแป้ง buckwheatและพวกเขาจะชอบให้หอมดี (Luthar, 1992)และกำบังรสแป้งข้าวสูง และกลาง ดังนั้น การเพิ่มขึ้นในเนื้อหาของเอฟจาก 10 ไป 20% นำไปเพิ่มคะแนนสำหรับรส เพิ่มเติมของเอฟ 30% ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในรสชาติของคุกกี้ได้รับ สังเกตทั้งหมดที่ค่าแอททริบิวต์ ทั่วไปสูตรคุกกี้พร้อม 20% ของเอฟแสดงการคุณสมบัติทางประสาทสัมผัสเป็นที่ยอมรับมากที่สุด ผลการวิจัยเหล่านี้ได้ตรงกันข้ามงานวิจัยของ Baljeet et al. (2010) ที่สอบสวนข้าวสาลี flourbasedขนมแห่ง 10 – 40% ของแป้ง buckwheat ดังนั้นการเพิ่มขึ้นของระดับของแป้ง buckwheat ในแป้งข้าวสาลีที่ใช้คุกกี้ที่นำไปสู่ลดคะแนนทางประสาทสัมผัส ความแตกต่างเหล่านี้สามารถเป็น ascribedคุณสมบัติ physicochemical ที่แตกต่างกันของแป้งข้าวสาลีและข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามการวิเคราะห์ทางประสาทสัมผัสแสดงในตารางที่ 6 แป้งสาลี
คุกกี้แสดงคะแนนต่ำสุดสำหรับคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสเช่น
รูปร่างและลักษณะที่ปรากฏบนพื้นผิวด้านล่างแตกและเคี้ยว
ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับอนุภาคที่ไม่เอื้อให้เกิดความเสียหายขนาด / แป้ง
อัตราส่วน คือไขมันและน้ำเนื้อหาที่สูงขึ้นอิทธิพลเกลี่ยกระจายขนาดใหญ่
คุณสมบัติและรักษาก๊าซในแป้งสาลีที่มีคุกกี้
คุกกี้ในการเปรียบเทียบกับตังฟรี ดังนั้นคุกกี้ตังฟรี
มีคะแนนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเกือบทั้งหมดผ่านการทดสอบคุณสมบัติ
ยกเว้นโครงสร้างหน้าตัด สูตรคุกกี้ 20% และ
30% ของ BF (คำนวณจาก flourmass) มีคะแนนสูงสุดสำหรับรสชาติ
คือมันเป็นที่รู้จักกันดีว่าแป้งข้าวเจ้าเป็น characterisedwith อ่อนโยน
และรสชาติที่เป็นกลาง (Kadan, ไบรอันท์และมิลเลอร์ 2008) ในทางตรงกันข้าม, โพลีฟีน
สารประกอบอะโรมาติกมักจะพบในแป้งบัควีท
และพวกเขามีความรับผิดชอบที่ให้กลิ่นหอม (Luthar, 1992)
และกาวแป้งข้าวเจ้ารสชาติหวานและเป็นกลาง ดังนั้นการเพิ่มขึ้น
ในเนื้อหาของ BF 10-20% นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของคะแนนสำหรับ
รสชาติ เพิ่มขึ้นต่อไปของ BF ถึง 30% ไม่ได้มีผลต่อ
รสชาติของคุกกี้ได้ โดยทั่วไปการสังเกตลักษณะการประเมินทุก
สูตรคุกกี้พร้อมกับ 20% ของ BF แสดง
คุณสมบัติทางประสาทสัมผัสได้รับการยอมรับมากที่สุด การค้นพบเหล่านี้เป็นตรงข้ามกับ
การวิจัยของ Baljeet และคณะ (2010) ที่ตรวจสอบข้าวสาลี flourbased
บิสกิตด้วยนอกเหนือจาก 10-40% ของแป้งบัควีท ดังนั้น
การเพิ่มขึ้นของระดับของบัควีทแป้งในตามแป้งสาลี
คุกกี้นำไปสู่การลดลงของคะแนนทางประสาทสัมผัส ความแตกต่างเหล่านี้อาจจะกำหนด
คุณสมบัติทางเคมีกายภาพที่แตกต่างกันของข้าวสาลีและข้าวแป้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามการวิเคราะห์และนำเสนอในที่ตารางที่ 6 , คุกกี้แป้งสาลี
มีคะแนนต่ำที่สุดสำหรับคุณลักษณะทางประสาทสัมผัสเช่น
รูปร่าง , ด้านบนและด้านล่าง ลักษณะผิวแตก (
ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับขนาดอนุภาคแป้งความเสียหาย
อัตราส่วน ได้แก่ ไขมันสูง และปริมาณน้ำที่ได้รับอิทธิพล spreadability
ขนาดใหญ่และก๊าซที่มีคุณสมบัติในการรักษาแป้งคุกกี้
เมื่อเปรียบเทียบกับคุกกี้ตังฟรี ดังนั้น ตังฟรีคุกกี้
มีคะแนนสูงกว่าเกือบทุกการทดสอบคุณลักษณะ
ยกเว้นโครงสร้างตัดขวาง . คุกกี้สูตร 20 % และ 30 %
BF ( คำนวณ flourmass ) มีคะแนนสูงสุดสำหรับรส .
คือมันเป็นที่รู้จักกันดีว่าข้าวเป็นแป้ง characterisedwith จืด
และเป็นกลางรส ( kadan ไบรอัน & , มิลเลอร์ , 2008 ) ในทางตรงกันข้าม โพลีฟีน ,
สารหอม มักพบในแป้งมัน
และพวกเขาจะรับผิดชอบให้กลิ่นหอมรื่นรมย์ ( luthar , 1992 )
และกาวธรรมดา และเป็นกลางรสแป้งข้าว ดังนั้น การเพิ่ม
ในเนื้อหาของ BF จาก 10 ถึง 20 % ทำให้เพิ่มคะแนน
กลิ่น . เพิ่มอีก 30 % BF ไม่มีผลต่อค่า
รสชาติของคุกกี้ โดยทั่วไปสังเกตทั้งหมดประเมินคุณลักษณะ
สูตรคุกกี้ที่เตรียมด้วย 20% ของ BF แสดง
ยอมรับมากที่สุดและคุณสมบัติ การค้นพบนี้เป็นตรงข้ามกับ
การวิจัยของ baljeet et al .( 2010 ) ที่สอบสวน flourbased
ขนมปังข้าวสาลีด้วยนอกเหนือจาก 10 – 40 % ของแป้งมัน . โดย
เพิ่มขึ้นในระดับของแป้งมันในแป้งสาลีที่ใช้ LED
คุกกี้ลดลงในคะแนนทางประสาทสัมผัส ความแตกต่างเหล่านี้สามารถใช้แทน
แตกต่างกันสมบัติทางเคมีและกายภาพของแป้ง ข้าวสาลี และข้าว