ครอบครัวของมาร์โคโปโล และการเดินทาง

ครอบครัวของมาร์โคโปโล และการเดินทางของพวกเขา พ่อของมาร์โคโปโล, Niccolo, และลุงของเขา Maffeo เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งแห่ง Venetian Republic. ตอนที่มาร์โคยังเป็นเด็กอยู่ พ่อและลุงของเขาได้จากครอบครัวในเวนิส และออกเดินทางไกลไปในดินแดนที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ จนไปถึงประเทศจีน. ในช่วงเวลานั้น ไม่มีชาวคริสเตียนตะวันตกคนใดเท่าที่ทราบ ได้เคยเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน, และเมื่อตระกูลโปโลได้เดินทางไปถึงประเทศจีน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างอบอุ่นโดยผู้ปกครอง นามว่า Kublai Khan, จักรพรรดิ์แห่งมองโกลส์. กุปไบล ข่าน ได้สอบถามคนทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินแดนยุโรป. พระองค์ได้มอบหมายให้ทั้งคู่นำพระราชสาส์นไปมอบให้กับ Pope Clement IV เพื่อขอให้ทรงส่งผู้คนแก่เรียนจำนวน 100 คนมายังราชสำนักของพระองค์ เพื่อจะได้ถกกันถึงปัญหาธรรมมะ และสนทนากนถึงคุณความดีของคริสตศาสนา. ตระกูลโปโลได้รับปากว่า จะนำน้ำมันจากตะเกียงเหนือหลุมฝังพระศพขององค์พระเยซูคริสต์ในกรุงเยรูซาเล็มกลับมาด้วย ในปี 1269 สองพี่น้องตระกูลโปโล ได้เดินทางกลับมาถึงป้อมปราการ Crusader of Acre ในปาเลสไตน์ ฑูตของสันตะปาปาที่ Acre, Teobaldo Visconti, ได้ให้ข่าวแก่คนทั้งสองว่า Pope Clement ได้สิ้นพระชนม์แล้ว แต่ได้เร่งเร้าให้พวกเขาปฏิบัติตามพันธกิจของตน เมื่อองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับการเลือกตั้งขึ้น. สองพี่น้องตระกูลโปโลอธิบายว่า จะใช้เวลาในช่วงระหว่างนั้นไปเยี่ยมครอบครัวของตน, แต่ในขณะที่เดินทางกลับมายังบ้านเกิด Niccolo ได้ทราบข่าวว่า ภรรยาของเขาได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว. บุตรชายของเขา Marco ตอนนี้ก็มีอายุย่างเข้า 15 ปีแล้ว. การเลือกตั้งสันตะปาปาองค์ใหม่ได้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และหลังจากนั้นสองปี ผู้เป็นน้อง(หมายถึงพ่อของมาร์โค)ก็ตัดสินใจว่า ถ้าหากว่าพวกเขายังต้องรอต่อไปอีก มันจะสายเกินไปที่จะหวนกลับไปเฝ้าองค์จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ดังนั้นในปี 1271 พวกเขาจึงกลับไปยัง Acre และครั้งนี้เขาได้นำเอามาร์โค โปโลติดตามไปด้วย หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับฑูตของสันตะปาปา Teobaldo พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และไปรับเอาน้ำมันตะเกียงอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมน้ำมันตะเกียงและจดหมายฉบับหนึ่งจากท่านฑูตขององค์สันตะปาปา ตระกูลโปโลทั้งสามคนก็เริ่มออกเดินทางไกลไปยังประเทศจีน ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไกลครั้งนี้ พวกเขาได้รับรู้จาก Teobaldo เองว่าจะได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปา ตัวท่านเองจะเป็นผู้ตอบรับคำขอของจักรพรรดิ์กุปไบลข่าน แต่ว่าสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า Gregory X สามารถที่จะส่งผู้คงแก่เรียนหรือมิชชันนารีไปกับครอบครัวโปโลได้เพียง 2 คนเท่านั้น แทนที่จะเป็น 100 คนตามที่ได้มีพระราชสาส์นขอมา ถึงกระนั้นก็ตาม มิชชันนารีทั้งสองคนนี้ ต่อมาไม่นานก็ได้ละทิ้งการเดินทางนี้ไปเสีย. การเดินทางซึ่งต้องข้ามภูเขาและทะเลทรายแห่งเอเชีย ทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาในการเดินทางยาวนานถึง 3 ปีครึ่งทีเดียว และมาสิ้นสุดที่ Shangtu อันเป็นเมืองหลวงสำหรับฤดูร้อนขององค์จักรพรรดิ์กุปไบลข่าน องค์พระจักรพรรดิ์ฯ ได้ต้อนรับนักเดินทางด้วยเครื่องหมายอันแสดงถึงไมตรีจิตที่พิเศษ และรับรอง Marco ด้วย ซึ่งตอนนี้เขามีอายุ 20 ย่าง 21 ปีแล้ว พวกเขาต่างๆได้รับการต้อนรับท่ามกลางผู้รับใช้ของพระองค์อย่างสมเกียรติ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นที่ชัดเจนนักว่า สิ่งที่ตระกูลโปโลทำนั้นในช่วง 17 ปีที่พำนักอยู่ในประเทศจีนคืออะไร แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ากุปไบล ข่าน ได้ใช้เจ้าหน้าที่ทางการชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และมาร์โคได้รับหน้าที่กระทำภารกิจในเรื่องที่ต้องสัญจรไปในที่ห่างไกลของจักรวรรดิ์ และได้บรรลวัตถุประสงค์อยู่เนืองๆ. สำหรับการเดินทางครั้งหนึ่งนั้น ได้อนุญาตให้มาร์โค โปโล เดินทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้จนถึงเมืองยูนาน และเป็นไปได้ว่า เขาจะไปถึงประเทศพม่าด้วย. ส่วนอีกครั้งของการเดินทางนั้น เขาได้ท่องไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่เมืองหางโจว อันถือว่าเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งทัดเทียมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความงดงามของเมืองหลวงของจักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน, นั่นคือ เมือง Taitu หรือ Khanbalik (หรือปักกิ่งนั้นเอง). มันมีเหตุผลที่จะคิดไปได้ว่า มาร์โค โปโล ได้มีความสัมพันธ์กันบางอย่างกับผู้บริหารที่ได้รับเอกสิทธิ์เกี่ยวกับการค้าเกลือ แต่มันไม่ได้รับการบันทึกเอาไว้ในรายงาน ในเรื่องเล่าส่วนใหญ่ของหนังสือบันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล ผู้บริหารเกี่ยวกับการค้าเกลือนี้ เขาเป็นผู้ปกครองเมืองหยางโจว ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญ และตระกูลโปโลได้มีบทบาทอย่างสำคัญในการยึดครองของมองโกลส์เกี่ยวกับเมือง Saianfu ด้วย กุปไบล ข่าน
ในที่สุด พอถึงปี 1929 ตระกูลโปโลก็ได้ออกจากเมืองจีน ซึ่งในช่วงเวลานั้น จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ย่างเข้าสู่วัยชราภาพแล้ว. ชาว Venetian ทั้งสามเกรงว่า ข้าราชบริภารราชสำนักที่เป็นภัยต่อพวกเขาอาจนำอันตรายมาสู่พวกเขาได ้เมื่อผู้ปกป้องพวกเขาต้องเสด็จสวรรคต. การรู้ว่า เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งของจักรพรรดิ์กุปไบล ข่านได้รับการยกให้กับผู้ปกครองชาวมองโกลส์แห่งเปอร์เชีย เป็นช่องทางอันหนึ่งที่พวกเขาจะได้ออกจากเมืองจีนและกลับไปยังบ้านเกิดของตน ดังนั้นตระกูลโปโลจึงขอพระราชทานอนุญาตจากกษัตริย์กุปไบล ข่าน เพื่อไปเป็นผู้คุ้มกันในขบวนเสด็จของเจ้าหญิง ทั้งๆที่จักรพรรดิ์กุปไบล ข่านจะไม่เต็มพระทัยก็ตาม. การเดินทางนั้นใช้เส้นทางเรือมุ่งหน้าออกสู่ทะเล และจากเปอร์เชีย ตระกูลโปโล ในท้ายที่สุด ก็ได้มาถึงเมืองเวนิสในปี 1295 หลังจากที่ต้องร้างลาจากบ้านเกิดมานานถึง 24 ปีเต็ม.
เรื่องเล่าตำนานอันนี้ เมื่อแรกมันไม่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้เพราะ มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดต่อเพื่อนบ้านของพวกเขา เกี่ยวกับการสร้างโชคลาภขึ้นมาด้วยอัญมณีจากเสื้อบุชั้นใน ในเสื้อผ้าของพวกเขา ในช่วงเวลาระหว่าง 3 ปีต่อมา, มาร์โค โปโล ได้ถูกจับเป็นเชลยในสงครามทางทะเลระหว่างเวนิสและจีนัว. ในคุกของจีนัว เขาได้เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองในเอเชียแก่บรรดาคนคุกทั้งหลายฟัง และเมื่อนักโทษคนหนึ่ง นามว่า Rustichello ซึ่งเป็นนักเขียนเรื่องโรมานส์ ได้เสนอเรื่องราวอันน่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่มาร์โค โปโลได้พูดถึงนี้เป็นลายลักษณ์อักษร มาร์โค โปโล ก็ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง และได้ส่งบันทึกการเดินทางดังกล่าวไปยังเมืองเวนิส. ด้ว

ครอบครัวของมาร์โคโปโล และการเดินทางของพวกเขา พ่อของมาร์โคโปโล, Niccolo, และลุงของเขา Maffeo เป็นพ่อค้าที่มั่งคั่งแห่ง Venetian Republic. ตอนที่มาร์โคยังเป็นเด็กอยู่ พ่อและลุงของเขาได้จากครอบครัวในเวนิส และออกเดินทางไกลไปในดินแดนที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้ จนไปถึงประเทศจีน. ในช่วงเวลานั้น ไม่มีชาวคริสเตียนตะวันตกคนใดเท่าที่ทราบ ได้เคยเดินทางไปประเทศจีนมาก่อน, และเมื่อตระกูลโปโลได้เดินทางไปถึงประเทศจีน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับด้วยไมตรีจิตอย่างอบอุ่นโดยผู้ปกครอง นามว่า Kublai Khan, จักรพรรดิ์แห่งมองโกลส์. กุปไบล ข่าน ได้สอบถามคนทั้งสองด้วยความสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับดินแดนยุโรป. พระองค์ได้มอบหมายให้ทั้งคู่นำพระราชสาส์นไปมอบให้กับ Pope Clement IV เพื่อขอให้ทรงส่งผู้คนแก่เรียนจำนวน 100 คนมายังราชสำนักของพระองค์ เพื่อจะได้ถกกันถึงปัญหาธรรมมะ และสนทนากนถึงคุณความดีของคริสตศาสนา. ตระกูลโปโลได้รับปากว่า จะนำน้ำมันจากตะเกียงเหนือหลุมฝังพระศพขององค์พระเยซูคริสต์ในกรุงเยรูซาเล็มกลับมาด้วย ในปี 1269 สองพี่น้องตระกูลโปโล ได้เดินทางกลับมาถึงป้อมปราการ Crusader of Acre ในปาเลสไตน์ ฑูตของสันตะปาปาที่ Acre, Teobaldo Visconti, ได้ให้ข่าวแก่คนทั้งสองว่า Pope Clement ได้สิ้นพระชนม์แล้ว แต่ได้เร่งเร้าให้พวกเขาปฏิบัติตามพันธกิจของตน เมื่อองค์สันตะปาปาองค์ใหม่ได้รับการเลือกตั้งขึ้น. สองพี่น้องตระกูลโปโลอธิบายว่า จะใช้เวลาในช่วงระหว่างนั้นไปเยี่ยมครอบครัวของตน, แต่ในขณะที่เดินทางกลับมายังบ้านเกิด Niccolo ได้ทราบข่าวว่า ภรรยาของเขาได้ถึงแก่กรรมลงแล้ว. บุตรชายของเขา Marco ตอนนี้ก็มีอายุย่างเข้า 15 ปีแล้ว. การเลือกตั้งสันตะปาปาองค์ใหม่ได้ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และหลังจากนั้นสองปี ผู้เป็นน้อง(หมายถึงพ่อของมาร์โค)ก็ตัดสินใจว่า ถ้าหากว่าพวกเขายังต้องรอต่อไปอีก มันจะสายเกินไปที่จะหวนกลับไปเฝ้าองค์จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ดังนั้นในปี 1271 พวกเขาจึงกลับไปยัง Acre และครั้งนี้เขาได้นำเอามาร์โค โปโลติดตามไปด้วย หลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกับฑูตของสันตะปาปา Teobaldo พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และไปรับเอาน้ำมันตะเกียงอันศักดิ์สิทธิ์ พร้อมน้ำมันตะเกียงและจดหมายฉบับหนึ่งจากท่านฑูตขององค์สันตะปาปา ตระกูลโปโลทั้งสามคนก็เริ่มออกเดินทางไกลไปยังประเทศจีน ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไกลครั้งนี้ พวกเขาได้รับรู้จาก Teobaldo เองว่าจะได้รับเลือกให้เป็นสันตะปาปา ตัวท่านเองจะเป็นผู้ตอบรับคำขอของจักรพรรดิ์กุปไบลข่าน แต่ว่าสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้ซึ่งได้ฉายาว่า Gregory X สามารถที่จะส่งผู้คงแก่เรียนหรือมิชชันนารีไปกับครอบครัวโปโลได้เพียง 2 คนเท่านั้น แทนที่จะเป็น 100 คนตามที่ได้มีพระราชสาส์นขอมา ถึงกระนั้นก็ตาม มิชชันนารีทั้งสองคนนี้ ต่อมาไม่นานก็ได้ละทิ้งการเดินทางนี้ไปเสีย. การเดินทางซึ่งต้องข้ามภูเขาและทะเลทรายแห่งเอเชีย ทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาในการเดินทางยาวนานถึง 3 ปีครึ่งทีเดียว และมาสิ้นสุดที่ Shangtu อันเป็นเมืองหลวงสำหรับฤดูร้อนขององค์จักรพรรดิ์กุปไบลข่าน องค์พระจักรพรรดิ์ฯ ได้ต้อนรับนักเดินทางด้วยเครื่องหมายอันแสดงถึงไมตรีจิตที่พิเศษ และรับรอง Marco ด้วย ซึ่งตอนนี้เขามีอายุ 20 ย่าง 21 ปีแล้ว พวกเขาต่างๆได้รับการต้อนรับท่ามกลางผู้รับใช้ของพระองค์อย่างสมเกียรติ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นที่ชัดเจนนักว่า สิ่งที่ตระกูลโปโลทำนั้นในช่วง 17 ปีที่พำนักอยู่ในประเทศจีนคืออะไร แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ากุปไบล ข่าน ได้ใช้เจ้าหน้าที่ทางการชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และมาร์โคได้รับหน้าที่กระทำภารกิจในเรื่องที่ต้องสัญจรไปในที่ห่างไกลของจักรวรรดิ์ และได้บรรลวัตถุประสงค์อยู่เนืองๆ. สำหรับการเดินทางครั้งหนึ่งนั้น ได้อนุญาตให้มาร์โค โปโล เดินทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้จนถึงเมืองยูนาน และเป็นไปได้ว่า เขาจะไปถึงประเทศพม่าด้วย. ส่วนอีกครั้งของการเดินทางนั้น เขาได้ท่องไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่เมืองหางโจว อันถือว่าเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งทัดเทียมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความงดงามของเมืองหลวงของจักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน, นั่นคือ เมือง Taitu หรือ Khanbalik (หรือปักกิ่งนั้นเอง). มันมีเหตุผลที่จะคิดไปได้ว่า มาร์โค โปโล ได้มีความสัมพันธ์กันบางอย่างกับผู้บริหารที่ได้รับเอกสิทธิ์เกี่ยวกับการค้าเกลือ แต่มันไม่ได้รับการบันทึกเอาไว้ในรายงาน ในเรื่องเล่าส่วนใหญ่ของหนังสือบันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล ผู้บริหารเกี่ยวกับการค้าเกลือนี้ เขาเป็นผู้ปกครองเมืองหยางโจว ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญ และตระกูลโปโลได้มีบทบาทอย่างสำคัญในการยึดครองของมองโกลส์เกี่ยวกับเมือง Saianfu ด้วย กุปไบล ข่าน 
ในที่สุด พอถึงปี 1929 ตระกูลโปโลก็ได้ออกจากเมืองจีน ซึ่งในช่วงเวลานั้น จักรพรรดิ์กุปไบล ข่าน ย่างเข้าสู่วัยชราภาพแล้ว. ชาว Venetian ทั้งสามเกรงว่า ข้าราชบริภารราชสำนักที่เป็นภัยต่อพวกเขาอาจนำอันตรายมาสู่พวกเขาได ้เมื่อผู้ปกป้องพวกเขาต้องเสด็จสวรรคต. การรู้ว่า เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งของจักรพรรดิ์กุปไบล ข่านได้รับการยกให้กับผู้ปกครองชาวมองโกลส์แห่งเปอร์เชีย เป็นช่องทางอันหนึ่งที่พวกเขาจะได้ออกจากเมืองจีนและกลับไปยังบ้านเกิดของตน ดังนั้นตระกูลโปโลจึงขอพระราชทานอนุญาตจากกษัตริย์กุปไบล ข่าน เพื่อไปเป็นผู้คุ้มกันในขบวนเสด็จของเจ้าหญิง ทั้งๆที่จักรพรรดิ์กุปไบล ข่านจะไม่เต็มพระทัยก็ตาม. การเดินทางนั้นใช้เส้นทางเรือมุ่งหน้าออกสู่ทะเล และจากเปอร์เชีย ตระกูลโปโล ในท้ายที่สุด ก็ได้มาถึงเมืองเวนิสในปี 1295 หลังจากที่ต้องร้างลาจากบ้านเกิดมานานถึง 24 ปีเต็ม.
เรื่องเล่าตำนานอันนี้ เมื่อแรกมันไม่ได้รับการยอมรับ ทั้งนี้เพราะ มันเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดต่อเพื่อนบ้านของพวกเขา เกี่ยวกับการสร้างโชคลาภขึ้นมาด้วยอัญมณีจากเสื้อบุชั้นใน ในเสื้อผ้าของพวกเขา ในช่วงเวลาระหว่าง 3 ปีต่อมา, มาร์โค โปโล ได้ถูกจับเป็นเชลยในสงครามทางทะเลระหว่างเวนิสและจีนัว. ในคุกของจีนัว เขาได้เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองในเอเชียแก่บรรดาคนคุกทั้งหลายฟัง และเมื่อนักโทษคนหนึ่ง นามว่า Rustichello ซึ่งเป็นนักเขียนเรื่องโรมานส์ ได้เสนอเรื่องราวอันน่าสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่มาร์โค โปโลได้พูดถึงนี้เป็นลายลักษณ์อักษร มาร์โค โปโล ก็ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้นจริง และได้ส่งบันทึกการเดินทางดังกล่าวไปยังเมืองเวนิส. ด้ว

0/5000

จาก: -

เป็น: -

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 1: [สำเนา]

คัดลอก!

Family of Marco Polo And their travel Father of Marco Polo, niccolo, and his uncle, a wealthy merchant of maffeo venetian republic.When Marco is still a child. Father and his uncle's family in Venice. And traveled far into the territory that was not expecting it. Until China.During that time, No Western Christian man, as you know. Have traveled to China before,.When the family went to Polo to China. They were greeted with warm hospitality by the parent as the kublai khan, emperor of the Mongol's.Sengupta Blythe Khan asked the two men with great interest about the European territory.He was assigned to both the king's letter to deliver to the pope clement iv to ask egghead sent 100 people to come to his place. To discuss the dharma. Conversation and composition of the virtue of Christianity.Polo family had agreed Would bring oil from the lamp above the tomb of Christ in Jerusalem back in 1269 with the Polo brothers. Be returned to the fortress crusader of acre in Palestine.teobaldo visconti, have a grain to them that are dead, pope clement. I was urging them to follow its mission. When the new Pope was elected on.Polo brothers explained In the meantime, take a visit to his family, but while traveling back to hometown niccolo I heard. His wife had died down.His son marco is now approaching 15 years old.The election of a new Pope has been slow. And two years later Younger (mean father Marco) was decided. If they have to wait for the next.Khan, so in 1271 they returned to the acre, and this time he has brought Marco. Followed by Polo After consultation with the papal envoy teobaldo they travel to Jerusalem.And oil lamps, and a letter from the Ambassador of the Pope. Polo a family trio also started to travel to China. Before they leave for a long time. Their perception of teobaldo.Yourself to be a response to the request of Emperor Sengupta Blythe Khan. But the new Pope Who was nicknamed gregory x can be learned or send missionaries to the Polo family had only two people instead of 100.Notwithstanding Both of these missionaries. Some time later, having left to go to waste.Which must travel over the mountains and deserts of Asia. Enabling them to take on a trip lasting up to three and a half years time. And come the end of the summer capital for shangtu as Emperor Sengupta Blythe Khan.Welcomes travelers with extraordinary hospitality that represents and certifies marco grilled with which he now aged 20 and 21 years, they have been welcomed among his servant with honor.What do the polo family in the last 17 years, residing in China is. It is well known that Khan Sengupta Dubai officials have used a lot of foreigners.And objective atmosphere continually.For one such journey Has allowed Marco Polo traveled to Yunnan, southwest through the city. And it is possible that He would go to Myanmar.Again part of the trip. He roamed the southeast to the city of Hangzhou. It is a big city, one that rivals no less than the beauty of the capital city of Emperor Sengupta Blythe Khan.That is taitu city or khanbalik (or Beijing itself).It is reasonable to think that Marco Polo had a relationship with some executives receiving an exclusive on the salt trade. But it has not been recorded in the report.Polo executives on commercial table salt. He was the ruler of Yangzhou city. Which is considered the city vital. Polo and family have an important role in the occupation of the Mongol's about saianfu by Sengupta Blythe Khan
.In 1929 when the Polo family had left China. During that time, Emperor Sengupta Blythe Khan grilled into adulthood and old age.The venetian three lest Brit royal servants directs the harm they may bring harm to them. This project when the protection they have passed away.Knowing that his princess of Emperor Sengupta Blythe. Khan has been raised to the Mongol ruler of Persia's. Channel was the one they would have left China and returned to their homeland.Khan to become the bodyguard of the Princess went in procession. In spite of Emperor Sengupta Blythe. Khan will not be a willing spirit.Getting there: Take the boat heading out to sea. And Persian polo family eventually came to Venice in 1295, after a draft of my hometown for a 24-year warranty.
.This legendary tale At first it was not accepted because it was strange to their neighbors. About building up a fortune in gems from the jacket lining. In their clothes3 years later,Marco Polo was taken prisoner of war by sea between Venice and G. Benoit.G in prison noir He talks about his own experience in Asia, to those who will hear prison. When one prisoner, a writer named rustichello Roma's. Has an interesting story about what Marco.Marco Polo also agree that this is true. And to send such a trip to Venice.Causes

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 2:[สำเนา]

คัดลอก!

The family of Marco Polo, and their journey, his father, his uncle, Marco Polo Niccolo and Maffeo เป็นพ่อค้า wealth of Venetian. Republic.When Marco was a boy. My father and uncle from his family in Venice. And go far in a land that was not expected to go to China.At that time, no Christian West man as you know. Used to travel to China before,And when the Polo went to China. They greeted with warm hospitality by parents, name, Kublai Khan emperor of the Mongol's.I sleep Bligh Khan asked them about the European territory.He was assigned to both the message to give to Pope Clement IV to have sent people to study the 100 people to court him. To discuss the Dhamma Much of the goodness of and discussion to Christianity.The Polo was the mouth. The oil from the lamp above the tomb of Jesus in Jerusalem back. In 1269 brothers the polo. Travel back to Fort Crusader of Acre in Palestine.英亩，Teobaldo Visconti, gave the news to both Pope Clement is dead. But the urge, they follow their mission. When the new Pope has been elected.The Polo brothers explained. Will take during that visit their family,, But while traveling back to her hometown Niccolo hearing the news that his wife has died down.His son Marco now is in the 15 years.The new pope was going slowly, and after two years. The younger (mean), it was decided that Marco's father If they still have to wait for the next.Khan, so in 1271 they went back to the Acre and this time he took the Marco Polo track. After consultation with the ambassador of the Pope Teobaldo they traveled to Jerusalem.With oil for the lamps, and a letter from the ambassador of the Pope. The Polo three began to depart far to China. Before they depart far this time, they get to know from the Teobaldo.You will answer my request of the emperor made a blind Khan, but the new Pope who, one called Gregory X can send a scientist or missionaries with family Polo only 2 people only. Instead of 100.However, the two missionaries. Not long later, have abandoned this journey away.The journey, which have to cross the mountains and deserts of Asia. They need to take a long journey to 3 half year. And Shangtu อันเป็นเมืองหลวง ended for the summer of the emperor made a blind Khan.Welcome travelers with a manifest the special hospitality and guarantee Marco, which when he was 20 grill 21 years. They all welcomed among the servants with dignityWhat the Polo do that during the 17 years stay in China? But is I sleep Bligh Khan has used a lot of foreign officialsThe mirror was continually.For a trip once, allow the Marco Polo traveled to the west, Southeast Yunnan to the city, and it is possible that he will go to China.The again of that journey. He could memorize southeastward to Hangzhou city. As a big city, one of which is equivalent to no less than the beauty of the capital ของจักรพรรดิ? I sleep, Bligh KhanThat is, the city Taitu or Khanbalik (or Beijing itself).It is reasonable to think that possible Marco Polo has some relationship with administrators received exclusive on the salt trade. But it has not been recorded in the report.Polo executive on the salt trade. He is a Governor Yang Zhou. Which is considered to be the city with the importance. And the Polo play role significantly in the occupation of the Mongol's about Saianfu. I sleep Bligh Khan
.Finally, by the year 1929 Polo family left China, which at the time, the emperor made a blind Khan approaching old age the picture.The Venetian three is afraid. I risk RI burden the harm they may bring harm to them. When the they have passed away.Knowing that his princess, one of the emperor made a blind. Khan has been given to the Mongol's ruler of Persia. Channel one, they will leave China and go back to their hometown.Khan to guard in the Royal Princess, even though the emperor made a blind. Khan is not willing.That trip the ship headed out to sea, and from the Persian, the polo in eventually arrive at the Venetian in 1295 after be unoccupied from hometown for 24 full year.
.The story of this first when it was not accepted, because it's strange to their neighbors. About the creation fortune came up with the gem from the coat lining layer. In their clothes.Years later, 3Marco Polo was taken prisoner in Maritime War between Venice and Genoa.In prison in China. He can tell their experience in Asia to the prison shall hear, and whenever one of the prisoners, name Rustichello. A writer of Romans. It offers a fascinating story about what Marco.Marco Polo admit really was. And sent to save such a trip to Venice.Too.

การแปล กรุณารอสักครู่..

ผลลัพธ์ (อังกฤษ) 3:[สำเนา]

คัดลอก!

Marco Polo's family and their journey. Marco Polo's father, Niccolo, and his uncle, Maffeo as the merchant's wealth. Venetian Republic. When Marco is also a child. His father and his uncle were from families in Venice and journey into the lands did not expect it to reach China. During that time. There are no Western Christian people which as far as I know has never been to China before, And when the family traveled to the Polo to China. They received a warm welcome with parental chitayangopun the name Kublai Khan, klo looked excellent walking. Hot ปไบล two people at famous buildings with particularly attention on European territory. He has been assigned to both bring message of Pope Clement IV to asking God to send people to study a number of 100 people come to his court to issue conclusions fair, MA and six of the merits to discuss Church religion. Polo family mouths get that will bring oil from the lamps above the pit burial of our Lord Jesus Christ in Jerusalem back. In the year 1269 by two brothers Polo traveled back to Crusader fortress of Acre in Palestine. Acre, Teobaldo Visconti, as well as the two peoples, said News Pope Clement had died, but has urged them to fulfill their mission. When a new element, element, the Pope elected. Two brothers Polo explains that it will take the family during their visit, but while travelling back to the hometown Niccolo know news that his wife has to die down. His son, Marco, are now at the age of 15 years into the grill. A new element, the Papal election was proceeding slowly, and after two years. Who is my brother (meaning father of Marco), they decided that if they have to wait further. Famous buildings, so in the year 1271 they returned to the Acre, and this time he brought Marco Polo track. After consultation with offices of the Papal Teobaldo reach, they continued to Jerusalem. With oil lamps and a letter from your Embassy of a papal element. The three men began to Polo family journey to China. Before they are out hiking. They have realized from Teobaldo. Yourself as a response to the request of walking with a new element, the Papal ปไบล, famous buildings, who have dubbed Gregory X to send a missionary to leave the Polo family, or just 2 people only. Instead of a 100 Nevertheless, the two missionary Not long later, it has abandoned this journey to lose. The journey across mountains and deserts in Asia Make them want to take the time to travel to 3 and a half years and ending at the same time as Shangtu capital for its summer walking with ปไบล famous buildings. Welcoming travelers with special represent-and endorse Marco, where now he is 21-year-old Yang 20. They are getting a warm welcome in your honor. What is Polo family during the 17 years that lives in China is nothing but known as ปไบล with famous buildings have used foreign officials a lot. And ban the purpose lies habitually. For once, it has allowed Marco Polo traveled to the Southwest until the city of Yunnan, and it is possible that he will go to Myanmar. Best again. He has been surfing to the Southeast to Hangzhou City. And is considered one of the major cities, which is tantamount to not less than the beauty of the walking capital of the Quran ปไบล. Famous buildings, It is a city of Khanbalik or Taitu (or Beijing itself). It is a reason to think that Marco Polo had some association with the executives get exclusive information about trading in salt, but it is not saved in the report. Polo executives about the salt trade. He is aiming to dominate the city of Yangzhou, which is considered an important political family and an important role as a Polo field in the occupation of the city with ปไบล Quran Saianfu klo about famous buildings
.In the end, enough for up to the year 1929, out of the Polo family in Chinese cities, in which from time to time. Walking with ปไบล famous buildings burned into the teens already programmed. The three Venetian people lest I of Brittany Court mission as disasters: they may be harmful to them when they defend, they must be passed. To know the Princess, he's walking with ปไบล. Famous buildings have been raised, with scoliosis is located overlooking the Persian people klo one channel, they will be able to leave China and return to their hometown. Famous buildings to be immune in the procession of Princess. Despite the fact that walking with God are not ปไบล however famous buildings full. The journey use the lanes headed out to sea, and from the Persian Polo family. In the end, it has reached the city of Venice in the year 1295 after that must be given up as long as the House 24 years old born in full.
.This gentle story When first it wasn't accepted because it is peculiar to their neighbors about creating luck coming up with gems from the Bush shirt lingerie in their clothes. 3 years later, Marco Polo has been held captive in marine warfare between Venice and some of the G20. In the prison of some of the He told his experience in Asia, as well as all those who listen to the prison, and when one of the prisoners behalf whether Rustichello, a man who writes a story about romance and offers of interest about what Marco. Marco Polo was acknowledged as such, and was sent to save the trip to the city of Venice's IOS. ด้ว

การแปล กรุณารอสักครู่..

ภาษาอื่น ๆ

การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.