Moroccan trade is still dominated b

Moroccan trade is still dominated by its main import and export partner France, although France's share in Moroccan trade is declining, in favour of the US, the Gulf Region and China. If seen as a single entity, the EU is by far Morocco's largest trading partner.
In recent years, Morocco has reduced its dependence on phosphate exports, emerging as an exporter of manufactured and agricultural products, and as a growing tourism destination. However, its competitiveness in basic manufactured goods, such as textiles, is hampered by low labour productivity and high wages. Morocco is dependent on imported fuel and its food import requirement can rise substantially in drought years, as in 2007. Although Morocco runs a structural trade deficit, this is typically offset by substantial services earnings from tourism and large remittance inflows from the diaspora, and the country normally runs a small current-account surplus.[1]
Morocco signed in 1996 an agreement of association with the European Union which came into effect in 2000. This agreement, which lies within the scope of the Barcelona Process (Euro-Mediterranean partnership) started in 1995 and envisages the progressive implementation of a free trade area planned for 2012

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โมร็อกโกการค้าที่ถูกครอบงำโดยยังคงนำเข้าหลักของการส่งออกและพันธมิตรฝรั่งเศสแม้ว่าหุ้นของฝรั่งเศสในโมร็อกโกการค้าที่ลดลงในความโปรดปรานของเรา, อ่าวภูมิภาคและจีน ถ้ามองว่าเป็นองค์กรเดียวของสหภาพยุโรปคือไกลโดยคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของโมร็อกโก.
ในปีล่าสุด, โมร็อกโกได้ลดการพึ่งพาการส่งออกฟอสเฟตที่เกิดขึ้นใหม่เป็นผู้ส่งออกของสินค้าที่ผลิตและการเกษตรและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต แต่ในการแข่งขันในการผลิตสินค้าพื้นฐานเช่นสิ่งทอของมันคือการยึดโดยผลิตภาพแรงงานต่ำและค่าจ้างสูง โมร็อกโกจะขึ้นอยู่กับน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำเข้าและความต้องการนำเข้าอาหารสามารถเพิ่มขึ้นมากในฤดูแล้งปีเช่นในปี 2007แม้ว่าโมร็อกโกทำงานขาดดุลการค้าโครงสร้างนี้จะชดเชยโดยทั่วไปแล้วผลประกอบการบริการอย่างมีนัยสำคัญจากการท่องเที่ยวและการไหลเข้าของเงินขนาดใหญ่จากพลัดถิ่นและประเทศปกติจะทำงานเกินดุลบัญชีปัจจุบันขนาดเล็ก. [1]
โมร็อกโกลงนามข้อตกลงในปี 1996 ของสมาคม กับสหภาพยุโรปซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2000 ข้อตกลงนี้ซึ่งอยู่ภายในขอบเขตของกระบวนการบาร์เซโลนา (ยูโรเมดิเตอร์เรเนียนหุ้นส่วน) เริ่มต้นในปี 1995 และ envisages การดำเนินงานความก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีที่วางแผนไว้สำหรับ 2012

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค้าโมร็อกโกยังถูกครอบงำ โดยการนำเข้าหลักและคู่ค้าส่งออกฝรั่งเศส แม้ว่าหุ้นของฝรั่งเศสในโมร็อกโกค้าถูกปฏิเสธ ลงสหรัฐฯ ภูมิภาคอ่าว และจีน ถ้าเห็นเป็นเอนทิตีเดียว EU ได้โดยไกลของโมร็อกโกที่ใหญ่ที่สุดค้าคู่ค้า
ในปีที่ผ่านมา ประเทศโมร็อกโกได้ลดการพึ่งพาการส่งออกฟอสเฟต เกิดขึ้น เป็นการส่งออกสินค้าเกษตร และผลิต และ เป็นปลายทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในเบื้องต้นสินค้า เช่นสิ่งทอ ขัดขวาง โดยผลิตภาพแรงงานต่ำและค่าจ้างสูง โมร็อกโกจะขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงที่นำเข้า และความต้องการนำเข้าอาหารสามารถเพิ่มขึ้นมากในปีที่แล้ง ในปี 2007 แม้ว่าประเทศโมร็อกโกทำขาดดุลการค้าโครงสร้าง นี้จะตรงข้าม โดยพบบริการรายได้จากการท่องเที่ยวและกระแสเข้าใหญ่ชำระเงินผ่านธนาคารจากการพลัดถิ่น และประเทศส่วนเกินบัญชีปัจจุบันที่ขนาดเล็กที่ทำงานปกติ[1]
โมร็อกโกลงนามในปี 1996 ข้อตกลงกับสหภาพยุโรปซึ่งมาผล 2000 ข้อตกลงนี้ ซึ่งอยู่ภายในขอบเขตของกระบวนการบาร์เซโลน่า (หุ้นส่วนยูโรเมดิเตอร์เรเนียน) เริ่มต้นในปี 1995 และ envisages ดำเนินก้าวหน้าของเขตการค้าเสรีที่วางแผนไว้สำหรับ 2012